เมื่อวันที่ (21 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จังหวัดชุมพรได้จัดพิธีสวดอภิธรรมศพ น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสลุย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หมอปอ” โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีพิธีสวดอภิธรรมศพเป็นคืนแรก หลังจากนำร่างกลับมาจากสถาบันนิติเวชสุราษฎร์ธานี ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีบรรดาญาติๆผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านมาร่วมงานกว่า 100 คน
ขณะเดียวกันทางครอบครัวของหมอปอ ได้ประกาศต่อหน้าแขกที่มาร่วมงานว่า ทางพ่อแม่และญาติของหมอปอ จะบำเพ็ญกุศลไปอย่างไม่มีกำหนดเผาเพื่อรอความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย เนื่องจากคดียังไม่มีความชัดเจนและยังไม่มั่นใจการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะนำศพไปประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายเชาว์ ครัวจัตุรัส ซึ่งเป็นคุณพ่อของหมอปอ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเป็นเรื่องเป็นข่าว ของพีพีทีวี โดยบอกว่าทางครอบครัวยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นกิ๊กของนายรณชัย ปานชาติ หรือนายเก่ง ว่าที่ลูกเขย ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งคันของตัวเองไปรับไปส่งนายรณชัย ในวันเกิดเหตุซึ่งทางครอบครัวรู้ดีว่านายรณชัย เป็นคนหัวอ่อนจะต้องมีคนชักนำหรือกดดันให้ก่อเหตุ และที่ผ่านมานายรณชัยไม่เคยมีอาวุธปืน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะต้องมีคนจัดหามาให้ เพราะก่อนเกิดเหตุทางหมอปอลูกสาวของตนเองเคยมีปัญหาทะเลาะกับฝ่ายหญิงที่เป็นกิ๊กสาวของนายรณชัย มาแล้วหลายครั้ง ทำให้มีความโกรธแค้นส่วนตัวกับลูกสาวของตนมาตลอด และเชื่อว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยอย่างแน่นอน
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือทรัพย์สินของลูกสาวจำนวนหนึ่งหายไป ซึ่งมีทั้งเงินสินสอดจำนวน 4 แสนบาท และทองคำหนัก 10 บาท ที่ลูกสาวตนจัดเตรียมไว้เพื่อใช้ในงานแต่ง และยังมีทองคำส่วนตัวของลูกสาวอีก 5 บาทก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด รวมทั้งเงินในสมุดบัญชีธนาคารที่ทั้งคู่ฝากเงินร่วมกันอีกประมาณ 6-7 แสนบาท ก็หายไปด้วยเช่นกัน ความคืบหน้าด้านคดีความ ล่าสุดทางพลตำรวจตรี สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างสอบสวนนายรณชัย เพิ่มเติมในประเด็นต่างๆที่ยังเคลือบแคลงคงสงสัยอยู่ เบื้องต้น คาดว่าจะสามารถนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังได้ภายในวันนี้ หรืออาจจะเป็นในวันพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่ได้มีการซัดทอดกิ๊กสาวว่ามีส่วนรู้เห็นในคดีนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร บอกว่า จากการสอบปากคำกิ๊กสาวคนดังกล่าวให้การเพียงทำหน้าที่ขับรถรับส่งผู้ต้องหาเท่านั้น และปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการสังหารโหดว่าที่เจ้าสาวในครั้งนี้ ซึ่งล่าสุดทางชุดสืบสวนกำลังเร่งหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม และหากพบสิ่งที่เชื่อมโยงไปถึงกิ๊กสาวคนนี้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป