ติดกับชายแดนไทยตรงข้ามอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย คือค่ายอพยพผู้ลี้ภัยสงคราม ของชาวไทใหญ่ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากค่ายอพยพดอยไตแลง ที่นี่มีผู้อพยพอยู่ถึงกว่า 2,600 คน
นายซอ อายุ 66 ปี อพยพมาอยู่ที่ดอยก่อวันมานานกว่า 7 ปีแล้ว อยู่ที่นี่เขาไม่มีอาชีพ ข้าวสารและอาหารส่วนใหญ่ได้รับแจกมาจากองค์กรนานาชาติ เพื่อเลี้ยงคนในครอบครัวรวม 6 คน แต่ช่วง2 ถึง 3 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาไม่ได้รับแจกข้าวสารอีกแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว องค์กรทุนระหว่างประเทศ ประกาศไม่สนับสนุนอาหารให้กับผู้ลี้ภัยในค่ายอพยพ บริเวณชายแดนไทย-รัฐฉาน 5 แห่ง โดยให้เหตุผลว่า เกิดกระบวนการสันติภาพขึ้นแล้วในเมียนมาร์
สันติภาพ ยังเป็นสิ่งที่ชาวไทใหญ่เรียกร้องมาตลอด71 ปี แม้วันนี้เมียนมาร์จะมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งและได้ลงนามหยุดยิงกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ แต่ในความเป็นจริง การปะทะยังเกิดขึ้นทุกวัน และผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ก็ยังไม่สามารถกลับพื้นที่ตัวเองได้
คณะกรรมการผู้ลี้ภัยไทใหญ่ได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ ให้สนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัยต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งนอกจากกลุ่มไทใหญ่แล้ว ค่ายผู้ลี้ภัยชาติพันธุ์อื่นก็กำลังถูกลดความช่วยเหลือเช่นกัน
พฤกษา สุนทรกุล ถ่ายภาพ
ปิติพร เพรามธุรส พีพีทีวี รายงาน