จากเดิมการติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสารก็เพื่อรองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้กับผู้มีรายได้น้อยใช้เป็นค่าโดยสารและเพื่อมาแทนพนักงานเก็บค่าโดยสาร แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือข้อจำกัดในการใช้งาน เช่น ในชั่วโมงเร่งด่วน ที่ไม่สามารถรองรับการทำงานได้อย่างรวดเร็วส่งผลไปถึงปัญหาการจราจรติดขัดและระบบของเครื่องไม่เสถียรแม้จะทดลองแล้วหลายครั้ง
สำหรับเครื่องรับบัตรค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ (อี-ทิกเก็ต) และเครื่องเก็บค่าโดยสาร (แคชบ็อกซ์) ซึ่งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทำสัญญาเช่ากับบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) เพื่อติดตั้งบนรถโดยสาร 2,600 คัน มูลค่า 1,665 ล้านบาท แบ่งระยะสัมปทาน 5 ปี โดย อี-ทิกเก็ต ติดตั้งล็อตแรกไปแล้ว 800 คัน ตามสัญญาจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 12 ธ.ค. ส่วนที่เหลืออีก 1,800 คัน ขสมก.จะเร่งเจรจาเพื่อแก้ไขสัญญาต่อไป