ต้นครู ต้นยางตูม และหญ้าน้ำเค็ม กลายเป็นพืชที่ขึ้นปกคลุมพื้นที่นา แทนต้นข้าวของเกษตรกรชาวเกาะกลาง จังหวัดกระบี่ ลำต้นที่สูงขึ้น และการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง แสดงให้เห็นว่า พื้นที่นี้ ถูกน้ำเค็มท่วมรุกล้ำเข้ามาเป็นเวลานานแล้ว ชาวบ้านบอกว่า น้ำเค็มที่นี่จะท่วมเข้ามาในช่วงเดือน พฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม หรือช่วงมรสุมของทุกปี ดังนั้นจึงตัดสินใจสร้างเขื่อนดินขึ้นมาล้อมรอบพื้นที่ เพื่อกันไม่ให้น้ำเค็มรุกล้ำเข้ามา
ก่อนหน้านี้กรมพัฒนาที่ดิน ได้สร้างเขื่อนดินล้อมรอบพื้นที่เกาะกลาง จ.กระบี่ รวมระยะทางหลายกิโลเมตร แต่ปัจจุบันเกิดชำรุดเสียหายหลายจุด ทำให้น้ำเค็มไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ในช่วงฤดูมรสุมกว่า 300 ไร่ จากพื้นที่ประมาณ 700 ไร่
ขณะที่ "ประวัติ คลองรั้ว" ประธานกลุ่มทำนา ต.คลองประสงค์ บอกว่า เมื่อน้ำเค็มท่วมที่นาแล้ว ต้องใช้เวลาราว 3 ปี กว่าจะแก้ไขบำรุงดินให้กลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง ขณะที่ลักษณะมรสุมที่เปลี่ยนแปลงไป มาไม่ตรงเวลา ก็ทำให้การทำนายิ่งได้รับผลกระทบ
เบื้องต้นประธานกลุ่มทำนา ต.คลองรั้ว วิงวอนขอให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือซ่อมแซมเขื่อนดินที่พังเสียหาย ก่อนจะฟื้นฟูที่ดินต่อไป ขณะที่ชาวบ้านยังระบุอีกว่า สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปนอกจากจะกระทบกับอาชีพทำนาแล้ว การกัดเซาะชายฝั่ง ยังเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กำลังเผชิญ
ชวลิต อินทรคำ ถ่ายภาพ
ปรารถนา พรมพิทักษ์ รายงาน