เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2561 น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางพร้อมจ่ายเงินตามมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 500 บาทต่อคน เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้กับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนกว่า 11 ล้านคน ในระหว่างวันที่ 8 – 10 ธ.ค. 2561
กรมบัญชีกลางจ่ายเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปี 500 บาท ตามเลขบัตรประจำตัวประชาชนดังนี้ วันที่ 8 ธ.ค. 2561 จะจ่ายให้กับผู้มีสิทธิที่มีเลขบัตรขึ้นต้นด้วยเลข 32 ,33 และ 34 มีจำนวน 4,080,325 ราย วันที่ 9 ธ.ค. 2561 จะจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิที่มีเลขบัตรขึ้นต้นด้วยเลข 31 , 35 , 36 , 37 , 38 และ 39 มีจำนวน 4,230,491 ราย วันที่ 10 ธ.ค. 2561 จะจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิที่มีเลขบัตรขึ้นต้นด้วยเลข 1 , 2 , 4 , 5 และ 8 มีจำนวน 2,964,325 ราย
สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ หรือที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ส่งข้อมูลผู้มีสิทธิที่ผ่านคุณสมบัติรอบแรกให้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการผลิตบัตร จำนวนกว่า 3 ล้านใบ ซึ่งจะจัดส่งบัตรไปยังสำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 แห่งทั่วประเทศและศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งต่อไปยังผู้มีสิทธิ ได้รับบัตรฯ ผ่านทีมไทยนิยมยั่งยืน ในแต่ละพื้นที่ของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีสิทธิกลุ่มดังกล่าว โดยจะเริ่มแจกบัตรฯ ให้กับผู้มีสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2561 จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2561 เพื่อจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป
ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติในรอบแรกและได้ยื่นอุทธรณ์ไว้ หากผ่านการพิจารณาอุทธรณ์แล้วมีสิทธิได้รับบัตรฯ จะดำเนินการผลิตบัตรฯ และแจกให้แก่ผู้มีสิทธิอีกจำนวน 2 รอบ คือ ภายในเดือนม.ค. และก.พ. 2562 ซึ่งกรมบัญชีกลางจะยกยอดวงเงินสวัสดิการทุกประเภทให้ไปใช้ต่อได้อีก 1 เดือน และจะโอนเงินตามมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 500 บาท ให้ในวันที่ 1 ก.พ. 2562
ขณะที่บรรยากาศที่จ.พิจิตร บริเวณธนาคารกรุงไทย มีประชาชนที่เป็นผู้มีรายได้น้อยและได้รับสิทธิผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต่างนำบัตรดังกล่าวมาตรวจสอบยอดเงิน หลังจากที่รัฐบาลได้มอบของขวัญปีใหม่ให้กับผู้มีรายได้น้อย ด้วยการโอนเงินเข้าสู่ระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายละ 500 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพและเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต
นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อร้านค้าต่างๆ ภายในตลาดเทศบาลเมืองพิจิตร ได้รับอานิสงค์เนื่องจากประชาชนผู้มีรายได้น้อย ได้นำเงินดังกล่าวไปซื้อสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคและบริโภคต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
ส่วนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาหาดใหญ่ มีประชาชนนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปกดเงิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และยังพบปัญหาคือเงินยังไม่เข้า เพราะหมายเลขบัตรไม่ตรงกับวันที่มีการโอนเงินเข้ามา ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบจึงพากันนำบัตรมากดเงินในวันแรกพร้อมๆ กัน ประชาชนบางส่วนจึงยังไม่ได้รับเงินเพราะยังไม่มีการโอนเข้ามาตามกลุ่มบัตรที่กำหนดไว้ อีกปัญหาคือผู้ที่มากดเงินส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุกดเงินผ่านตู้เอทีเอ็มไม่เป็น หรือไม่ทราบรหัสบัตรต้องขอให้คนอื่นกดให้
อ่านเพิ่มเติม:
“นักวิชาการ” ชี้มาตรการ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ช่วยคะแนนเสียงรัฐบาล
“สมคิด”ยันทุ่มงบ 3.8 หมื่นล้านผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ใช่หาเสียง
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
