5 จุดที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินมาตรฐาน สูงที่สุดวันนี้ได้แก่ ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน วัดได้ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร//ถนนพระราม 3 เจริญกรุง เขตบางคอแหลม วัดได้ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร//ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว95 เขตวังทองหลาง วัดได้ 55 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด วัดได้ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร//และริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สำหรับที่ริมทางคู่ขนานถนนพระราม 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร ที่ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานสูงสุดมาเกิน 1 สัปดาห์ วันนี้ มีค่าฝุ่น Pm 2.5 อยู่ในโซนสีเขียว 36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เช่นเดียวกับสถานีตรวจวัดอีกหลายแห่งที่วันนี้ อยู่ในโซนสีเขียว ได้แก่ ริมถนนนราธิวาส เขตบางรัก ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา//ริมถนนสามเสน เขตพระนคร แขวงบางนา เขตบางนา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ แขวงดินแดง เขตดินแดง ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง จ.สมุทรปราการ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ และแขวงพญาไท เขตพญาไท ที่มีค่าฝุ่นอยู่ระหว่าง 31-37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์ว่าในวันพรุ่งนี้ ปริมาณ PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่มีลมพัดอ่อน
เช่นเดียวกับกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ ลมอ่อน มีฝนเล็กน้อย จึงจะยับงมีฝุ่นละอองขนาดเล็กสะสมอยู่ในอากาศ จนวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ ถึงจะมีลมแรงขึ้น มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ความชื้นในอากาศสูง ฝุ่นละอองจะเริ่มคลี่คลาย
ปัญหาฝุ่นละออง กทม. ติดอันดับทำลายสุขภาพ
นายกฯออกแถลงการณ์ PM 2.5 ไม่พบ “โรงงานปล่อยมลพิษ”เกินกำหนด
กรมควบคุมมลพิษแจง กรุงเทพฯเกิดสภาพอากาศนิ่ง ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่อาจจะต่อเนื่องถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์นั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมูลค่าประมาณ 8,000 – 10,000 ล้านบาท จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่น้อยลง เพราะหลายหน่วยงานประกาศหยุดงาน ประกาศปิดโรงเรียน และเลี่ยงเข้ากรุงเทพฯ แต่ยังไม่กระทบการท่องเที่ยว และยังไม่พบยอดการยกเลิกที่พักของนักท่องเที่ยว