วันนี้ 12 ก.พ. 2562 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ หญิงไก่ จากทัณฑสถานหญิงกลางบางเขน มาฟังศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์
คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องว่าต้นเดือน มิ.ย.2549 - ต.ค.2553 ต่อเนื่องกัน จำเลยบังคับ น.ส.ดาลิน หล้าคำ น.ส.ขวัญจิรา จิรสกุลโชคชัย ให้ทำงานเป็นแม่บ้าน ตั้งแต่ 05.00 - 22.00 น.โดยไม่มีวันหยุด และระหว่างเดือน พ.ค.2551- เม.ย.2552 ได้ฉ้อฉลหลอกลวง น.ส.กาญจนา ปองลาภสุนทร ผู้เสียหายชาว จ.แม่ฮ่องสอน บังคับขืนใจทำงานเป็นแม่บ้านให้ที่ประชานิเวศน์คอนโด แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.
ต่อมาวันที่ 19 ต.ค. 2560 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า พยานหลักฐานยังรับฟังไม่ได้ว่า น.ส.ดาลินและ น.ส.กาญจนา ถูกจำเลยข่มขู่หรือเข้าข่ายความผิดตามฟ้อง เพราะไม่มีการยึดบัตรประชาชน ไม่มีพยานหลักฐานพิสูจน์ว่าต้องทำงานต่อเนื่องตั้งแต่ 05.00 น. ถึง 22.00 น. จริง ส่วนประเด็นที่อ้างว่าจำเลยข่มขู่บิดาของ น.ส.กาญจนาหากลูกสาวไม่ยอมทำงานต่อ จะดำเนินคดีกับบิดาและมารดา ก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัด จึงรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการข่มขู่ เพื่อแสวงหาจากการบังคับใช้แรงงาน
เเต่ในส่วนของ น.ส.ขวัญจิรา พิจารณาเเล้วถึง แม้งานจะไม่หนักมาก ผู้เสียหายเพียงคนเดียว สามารถทำได้ แต่การยึดบัตรประชาชน จำเลยมีเจตนาหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการใช้แรงงาน มีความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ พิพากษาจำคุก 4 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 3 ปี และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ น.ส.ขวัญจิรา เป็นเงิน 590,007 บาท
กระทั่ง ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า จำเลยจัดให้ น.ส.ขวัญจิราพักอาศัยในคอนโดประชานิเวศน์ ให้ทำงานบ้าน ร่วมกับผู้เสียหายอีก 2 คน และแบ่งหน้าที่ช่วยกันดูแลจำเลยกับบุตรเพียงสองคน งานที่ผู้เสียหายทำไม่หนักมาก และยังได้ความจาก น.ส.ขวัญจิราว่า จำเลยให้เงินครั้งละ 1 พันบาท ให้โทรศัพท์ ให้ค่าเดินทางกลับบ้าน 2 พันบาท โอนเงินให้อีก 5 พันบาท และพาไปเที่ยวต่างจังหวัดบางครั้ง สามารถออกไปซื้อของข้างนอกได้ แสดงว่ามีอิสระ ไม่ได้ถูกกักขัง
ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยข่มขืนใจ ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน หรือขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือทำให้ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และ น.ส.ขวัญจิราให้การว่า จำเลยเป็นคนโมโหง่าย แต่ไม่เคยบังคับข่มขู่ จึงยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ การกระทำของจำเลย จึงไม่ครบองค์ประกอบการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 (2) ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์ ไม่เห็นพ้องด้วย
สำหรับคดีแพ่งเมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิด จึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ น.ส.ขวัญจิรา พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา นางมณตา ร้องไห้ออกด้วยความดีใจ ก่อนทรุดลงกับพื้นและก้มลงกราบศาล
ศาลอนุมัติหมายจับหญิงไก่เพิ่มคดีค้ามนุษย์
ศาลสั่งจำคุก “หญิงไก่” อีก 7 ปี 6 เดือน คดีหมิ่นเบื้องสูง