มาเริ่มที่พรรคพลังประชารัฐ ที่ใช้มีนโยบาย “มารดาประชารัฐ” ตั้งท้องจนคลอดให้เดือนละ 3,000 บาท ช่วยเลี้ยงดูถึง 6 ขวบ ให้เดือนละ 2,000 บาท เป็นเงินรวม 144,000 บาท รวมถึง โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ "เพิ่มคน เพิ่มสิทธิ" ขยายเพิ่มเติมให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติ แต่ตกหล่นให้ได้รับสิทธิครบถ้วน เพิ่มสิทธิต่าง ๆ ในบัตร แถมยังมีนโยบายฟรีแลนซ์ ฟรี สวัสดิการด้วย
ด้าน พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่น้อยหน้า มีนโยบาย “เกิดปั๊บ รับสิทธิ์เงินแสน” เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้า เด็ก 0-8 ขวบ 1,000 บาทต่อเดือน , นโยบายเบี้ยผู้สูงอายุทุกคน เดือนละ 1,000 บาท เบี้ยผู้ยากไร้ขั้นต่ำ 800 บาทต่อเดือน โอนตรงสู่บัญชี และให้สิทธิการเช่าแฟลตการเคหะฯ กู้เงินได้ ให้สัญญาเช่าแฟลตของการเคหะแห่งชาติเป็นเอกสารสิทธิ ที่ผู้เช่าสามารถนำมากู้ยืมเงินจากธนาคารได้
พรรคอนาคตใหม่ นโยบายคือ เพิ่มเงินค่าครองชีพผู้สูงอายุเป็นเดือนละ 1,800 บาท อายุ 60 ปีปุ๊บ มีเงินโอนเข้าบัญชีทันที ,เพิ่มสิทธิลาคลอดให้ 180 วัน ,มีเงินเดือนสนับสนุนการเลี้ยงดูลูกอายุ 0-6 ขวบ เดือนละ 1,200 บาท และขยายสิทธิประกันสังคมครอบคลุมแรงงานนอกระบบ เพิ่มงบประกันสุขภาพเป็น 4,000 บาทต่อปี
พรรคชาติพัฒนา เสนอตั้งโครงการบ้านเกษียณสำราญสำหรับผู้สูงอายุ ปรับปรุงบ้านพักคนชรา ,เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 2,000 บาท และให้ทุนรับน้องใหม่สำหรับเด็กแรกเกิด เพิ่มการช่วยเหลือคนพิการ และดูแลช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน
พรรคเพื่อไทย จะผลักดันให้เกิดระบบสวัสดิการสังคม ที่ครอบคลุมและยุติธรรมแก่ผู้ที่ส่งเงินประกันสังคมให้แก่ภาครัฐในทุกสาขาอาชีพ ตลอดจนเร่งรัดกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานสวัสดิการสังคม และแนวทางในการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการสังคมประเภทต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพของสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนกับกองทุนประกันสังคมให้เกิดประสิทธิภาพและมีความคล่องตัว
ส่วนนโยบาย พรรคชาติไทยพัฒนา เน้นสร้างสวัสดิภาพเด็ก สตรี ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส พร้อมจะขยายการเกษียณงานเป็น 65 ปี ให้ผู้สูงอายุกู้เงินยืมได้ 5,000 – 25,000 บาท เมื่อสมทบเงินเข้ากองทุนตามกำหนด