พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่ระบุว่า จะเซ็นคำสั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง ชุดปฏิบัติการด้านการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ เซ็นแต่งตั้งไว้ก่อนหน้านี้ เพราะ มองว่าซ้ำซ้อน แต่ไม่จำเป็นต้องแยกออกมาเป็นชุดปฎิบัติการพิเศษ เนื่องจาก หน่วยงานปกติก็ทำหน้าที่อยู่แล้ว เมื่อมีข้อครหาว่า ชุดปฎิบัติการชุดนี้ เรียกรับผลประโยชน์ ก็ต้องตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ต่อ
“สมศักดิ์” สั่งเด้งฟ้าผ่า “ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์” พ้นอธิบดีดีเอสไอ
อัยการ สั่งฟ้อง“ตู้ห่าว”กับพวก 9 ข้อหา ยาเสพติด-ฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติ
หากย้อนดูคำสั่งดังกล่าว จะพบว่า นายไตรยฤทธิ์ เซ็นแต่งตั้งเมื่อ 28 พ.ย. 2565 มีข้าราชการในชุดปฎิบัติการรวม 8 คน คือ นายตฤณ หัวหน้าชุด นายอนัน นายอดิศร ร.ต.ท.หญิงธราธร ร.ต.ท.นิติธร นายพัทธดนย์ นายอำนาจ และ นายศุภชัย
ส่วนภารกิจและอำนาจหน้าที่มีทั้งหมด 10 ข้อ หลักๆคือ ปฎิบัติภาคกิจเร่งด่วน ตามข้อสั่งการของอธิบดีดีเอสไอ และให้ทำงานเกี่ยวกับข่าวกรอง ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงให้ประสานเรื่องข่าวกรองกับหน่วยงานทั้งในและนอกกระทรวงยุติธรรม
ในคำสั่งแต่งตั้งยังบอกอีกว่า หากปฎิบัติภาคกิจเร่งด่วน ตามข้อสั่งการของอธิบดีดีเอสไอ หรือ กรณีเร่งด่วน อธิบดีดีเอสไอมอบอำนาจให้หัวหน้าชุดฯลงนามในหนังสือถึงหน่วยงานของรัฐ โดยเมื่อดำเนินการแล้วต้องรายงานต่ออธิบดีดีเอสไอโดยด่วนเลย
หากไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วงตบทรัพย์บ้านทุนจีน จะพบว่า ค่อนข้าง เกิดขึ้นในช่วงใกล้เคียงกัน
เริ่มจาก อธิบดีดีเอสไอ ตั้งชุดปฎิบัติการด้านการข่าว ชุดนี้ 28 พ.ย. 2565
ถัดจากนั้นไม่นาน 9 ธ.ค. 2565 สถานกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย ขอความอนุเคราะห์ให้ ดีเอสไอช่วยตรวจสอบเรื่องบ้านของอดีตกงสุลใหญ่
13 ธ.ค. 2565 เลขานุการกรม เซ็นรับเรื่องคำร้องของ สถานกงสุลไว้
และ 14 ธ.ค. 2565 อธิบดี รับเรื่องไว้ จากนั้น มอบให้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการ
ถัดจากนั้น แชตไลน์ ของคนที่ถูกระบุว่าเป็นมือขวาของอธิบดีดีเอสไอ ทักไปขอกำลังเสริมที่ ตำรวจ191 วันที่ 21 ธ.ค.
และ 22 ธ.ค. มีการเข้าค้นบ้านดังกล่าวและมีการตบทรัพย์เกิดขึ้น
สาเหตุที่เอาคำสั่งตั้งชุดปฎิบัติการพิเศษ มาเรียงไทม์ไลน์ต่อกับการค้นบ้านอดีตกงสุลนาอูรู เพราะ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทั้ง 5 คน ที่ไปค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่ อยู่ในชุดปฏิบัติการนี้ทั้งหมด
วานนี้ ( 18 ม.ค.) พีพีทีวีเปิดแชตไลน์ คนที่ถูกระบุว่า เป็นมือขวาของอธิบดีดีเอสไอ เป็นคนประสานไปที่ ตำรวจ191 เพื่อขอกำลังไปร่วมค้นบ้านอดีตกงสุล ล่าสุด พีพีทีวี โทรศัพท์ไปหา ชายคนดังกล่าว เพื่อถามข้อมูลว่า เขาเกี่ยวข้องอย่างไรกับการตบทรัพย์ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ให้ข้อมูลไว้หรือไม่ โดยเขาไม่ได้ปฏิเสธว่า เป็นคนติดต่อตำรวจ 191 แต่บอกว่า “เขาเป็นแค่คนประสานงาน” ก่อนจะวางสายไปไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ
พีพีทีวี พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้ชายคนคนดังกล่างวเพิ่มเติม พบว่า ตำแหน่งของเขา คือ ผอ.หน่วยงานหนึ่ง ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ น่าสนใจว่า กองดังกล่าวนี้ เกี่ยวข้อง หรือต้องไปยุ่งกับ ชุดปฏิบัติการด้านการข่าว ที่ อธิบดีตั้งขึ้นหรือไม่ เพราะตามรายงานพบว่าจริงๆ ชุดดังกล่าว ขึ้นตรงกับอธิบดีดีเอสไอ
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษและโฆษกดีเอสไอ บอกว่า ต้องให้ความเป็นธรรม ตอนนี้ยังมีข้อมูลแค่การพูดกันว่า ผู้อำนวยการกอง คนนี้ เกี่ยวข้องด้วย แต่ยังไม่มีหลักฐานใดๆ หลังจากนี้ต้องรอการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน
แต่ถ้าถามว่า กอง ที่ ผู้อำนวยการคนนี้ ทำงานอยู่ เกี่ยวข้องกับ ชุดปฏิบัติการด้านการข่าว หรือไม่ โฆษกดีเอสไอ บอกว่า ทางกรมจะมีการระบุบทบาทหน้าที่ และ กรอบกฏหมายที่กำหนดภารกิจ ของแต่ละกอง เมื่อไปดูพบว่ากองดังกล่าว มีหน้าที่ หลัก คือ ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาหลักสูตร ฝึกอบรมวิชาการ
โฆษก ยอมรับว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แต่ภารกิจที่ระบุเป็นเอกสารของกองนี้ ข้อสุดท้าย เขียนว่า มีภารกิจในการสนับสนุนการปฎิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งข้อนี้เป็นภารกิจที่ระบุเหมือนกันทุกหน่วยกองปฎิบัติงาน
โฆษกดีเอสไอ ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่กรมก่อตั้งมาเกือบ 20 ปี ที่ผ่านมาสร้างผลงานสำคัญกับประเทศมากมาย ซึ่งเป็นธรรมดาที่การทำงานจะมีเจ้าหน้าที่ทั้งคนดีและไม่ดี พร้อมฝากให้ประชาชนช่วยสอดส่องพฤติกรรมเจ้าหน้าที่หากพบเห็นสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งข้อมูลอธิบดีให้ตรวจสอบได้