ย้อนที่มาชื่อ "อาจารย์แม่" ฉายาที่ถูกเรียกโดยนักต่อสู้-คนฟังวิทยุ ไม่ใช่นักศึกษา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ย้อนที่มาชื่อ "อาจารย์แม่" ฉายาที่ถูกเรียกโดยนักต่อสู้-คนฟังวิทยุ ไม่ใช่นักศึกษา

หวนให้คิดถึง “อาจารย์แม่” หรือ รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ นักพูดชื่อดัง หลังโลกออนไลน์แชร์ภาพปัจจุบันที่เพิ่งผ่านวันเกิดครบ 87 ปี ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

“อาจารย์แม่” เป็นที่รู้จักในฐานะนักพูดชื่อดัง ปรากฎผลงานมากมายผ่านรายการโทรทัศน์ และในฐานะนักวิชาการ เป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต

แต่น้อยคนนักจะรู้ที่มาชื่อเรียก “อาจารย์แม่” ที่สุดท้าย ไม่ได้ถูกเรียกหรือตั้งฉายาโดยนิสิตนักศึกษา แต่กลับเป็นเรียกขานจากแฟนคลับที่ฟังวิทยุ และนักต่อสู้เพื่ออุดมการณ์

คอนเทนต์แนะนำ
เปิดภาพปัจจุบัน "อาจารย์แม่" ในวัย 87 ปี หวนคิดถึงเสียงนักพูดชื่อดัง
แก่นโลกชั้นใน “หยุดหมุน-เปลี่ยนทิศ” เรื่องปกติหรือสัญญาณอันตราย?

รศ.สุนีย์ เปิดเผยเรื่องราวบางช่วงบางตอน ผ่านรายการชูรักชูรส ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2544 บอกว่า คำว่าแม่ ถูกตั้งค่านิยมเป็นผู้ให้ แม้แต่วัฒนธรรมอื่น หรือศาสนาพราหมณ์ ที่เชื่อว่ามนุษย์เกิดจากธาตุ ยังต้องตั้งชื่อเรียกเป็น ดิน-แม่พระธรณี , น้ำ-แม่พระคงคา , ลม-แม่พระพาย หรือแม้กระทั่ง ข้าว-แม่พระโพสพ 

ส่วนชื่อ “อาจารย์แม่” ถูกเรียกชื่อนี้มาตั้งแต่ปี 2515 เป็นช่วงที่ รศ.สุนีย์ จัดรายการวิทยุ ตอบปัญหาชีวิตประจำวันให้กับผู้ฟัง 

เราก็ไม่เคยนึกว่าจะมีคนเรียกเราอย่างนี้ และไม่คิดว่าแต่ละวันจะมีคนหอบปัญหามาถามกันมากมาย แต่เมื่อเราตอบไปแล้ว เขาสบายใจ ได้แก้ปัญหาทุกข์ให้เขา เมื่อเราเจอเขาข้างนอก บางคนพบหน้าแล้วร้องไห้ ทำให้เลิกฆ่าตัวตาย ขอบคุณเรา เปรียบเราเหมือนแม่คนที่สอง

หากย้อนที่มาไปในช่วงเวลาเดียวกัน ก่อนถูกเรียกว่า “อาจารย์แม่” ก็มีคนตั้งฉายา รศ.สุนีย์ว่า “แม่ครู” คนที่เรียกคนแรกชื่อ “ภมรสุวรรณ” ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2515 เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนอยู่ในความรู้สึกว่าต้องต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ ประกอบกับเริ่มมีแฟนคลับ มีคนมาฟัง รศ.สุนีย์ พูดจำนวนมาก และส่วนใหญ่ไม่ใช่นิสิตนักศึกษา และคนเหล่านั้นจึงรวมตัวเรียกว่า “อาจารย์แม่” 

นอกจากความเป็น “อาจารย์แม่” ของคนทั่วไป รศ.สุนีย์ เล่าเรื่องราวในฐานะคนเป็นแม่ด้วยว่า ไม่อยากได้ยินคำว่า เป็นลูกครูแล้วโง่ เป็นลูกหมอแล้วผอม ดังนั้นเธอจึงเลี้ยงลูกอย่างตั้งใจ แต่ต้องไม่เครียดจนเกินไป พร้อมย้ำว่าคนเป็นแม่ต้องอย่าปฏิเสธเรื่องเวลา และอย่าเลี้ยงจนลูกเป็นคุณหนูจนเกินเหตุ

“ปุ้ม (ดร.นิธินาถ สินธุเดชะ เตลาน) ตอนเด็กๆ ถามว่าสอบได้ที่เท่าไร เชื่อว่าในห้องมี 35 เธอสอบได้ที่ 35 เราก็มาคิดว่าจะทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้อย่างไร ก็พาย้ายโรงเรียนมาอยู่สาธิตจุฬาฯ พาติดตามไปทำกิจกรรมกับนิสิตนักศึกษาทุกเย็น จนปุ้มเขามองว่า วันหนึ่งเขาต้องเป็นนิสิตให้ได้”

คุณแม่อย่าพูดว่า ดิฉันรู้ไม่เท่าลูก เพราะเรียนมาไม่เท่าเขา บางคนบอกเรียนจบประถมไม่รู้จะสอนลูกอย่างไร อย่าลืมนะคะ คุณแม่ทุกท่านมีประสบการณ์ นั่นคือสิ่งที่สั่งสมมาและจะใช้สั่งสอนลูกได้

 

คอนเทนต์แนะนำ
เปิด 4 กลโกงโจรออนไลน์ “หลอกลงทุน-โอนเงิน” เตือนประชาชนระวัง
ดราม่า "กุน ขแมร์" ย้อนดูกีฬาพื้นบ้านที่ถูกบรรจุในซีเกมส์ จนเป็นเรื่องปกติ
10 อาหารบำรุงสมอง เพิ่มหน่วยความจำ แก้สมองล้า ลดเสี่ยงอัลไซเมอร์

ภาพจาก : มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต Rattana Bundit University

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP สังคม

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ