วันที่ 3 ก.พ. 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุม นายธนาวุฒิ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพได้ ที่ จ.153/2568 ลงวันที่ 1 ก.พ.2568 ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, สมคบกันโดยการตกลกกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้ที่ได้มีการสมคบกัน โดยสามารถจับกุม บ้านพัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ถือเป็นรายหลัก เคยถูกแจ้งความจำนวน 163 ครั้ง และ เชื่อว่ามีอีกจำนวนมากที่ยังไม่แจ้ง
จากสอบปากคำเพื่อขยายผล เจ้าตัวก็รับสารภาพทั้งหมด และ บอกว่า เมื่อเดินทางไปถึงตึก 18 ชั้นฝั่งปอยเปตครั้งแรกจะถูกจับเทรนนิ่งก่อน 7 วัน ก่อนที่จะลงงานจริง ตื่นเช้ามาจะไปฟังสคริปว่าจะต้องทำหน้าที่อะไร
ด้าน นายธนาวุฒิ ผู้ต้องหา อ้างว่า ตัวเองข้ามไปทางฝั่งกัมพูชาโดยผ่านด่านตามปกติ จากนั้นมีรถของคนกัมพูชามารับไปยังตึก 18 ชั้นและถูกกักขังไม่ให้ออกไปไหน โทรศัพท์มือก็ถูกยึด และเคยถูกตีด้วยไม้เบสบอลมาครั้งหนึ่ง เพื่อให้รู้ว่าถ้าทำผิดก็จะโดนอีก ที่ผ่านมาเคยหลอก น.ส.ชาล็อต ออสติน และ น.ส.แอนชิลี 2 นางงามชื่อดัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้หรือไม่การหลอกลวงทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน นายธนาวุฒิ กลับอ้างว่า “รู้ครับ ถ้าไม่ทำผมก็โดน โดนตีตามที่บอก โดนตี 5 ครั้ง ผมเคยหลบหนีมา 1 ครั้ง และผมจะไม่ทำอะไรที่เดือดร้อนกับตัวเอง เพื่อที่จะให้ตัวเองนั้นเจ็บอีก”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คุณยินดีที่จะหลอกชาวบ้านใช่หรือไม่ ผู้ต้องหา อ้างอีกครั้งว่า “ถ้าไม่ทำผมก็โดน เข้าใจไหมฮะ”
เมื่อถามว่า ออกจากขบวนการคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างไร ผู้ต้องหา บอกว่า “ผมไม่มีประโยชน์ในส่วนนั้นแล้ว เขาก็ให้กลับตามปกติ ผมไม่สามารถพูดคุยต่อได้ และ ผมเป็นโรคหัวใจด้วย เคยถูกหามเข้าโรงพยาบาล”
เมื่อถามอีก คุณรู้หรือไม่ว่าคนไทยถูกคุณทำร้ายเป็นหลายร้อยคน ผู้ต้องหา อ้างว่า “ผมไม่ทำผมก็โดน ผมก็ขอโทษ ถ้าเป็นพี่อยู่ตรงนั้นจะทำอย่างไร”