นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวทางการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานและถุงยางอนามัย ปีงบประมาณ 2565 ว่า ปีนี้ สปสช. ได้เพิ่มจุดให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น ซึ่งจะทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และเพิ่มความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย (Safe sex) โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น โดยมีเกณฑ์แจก คือ
งานวิจัย เผยระดับแอนติบอดีในผู้ป่วย อาจกำหนดว่า ใครเป็น “Long Covid”
เปิดผลศึกษาวัคซีนในกาตาร์ เปรียบเทียบประสิทธิผล“โมเดอร์นา- ไฟเซอร์”
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน
- หญิงไทยทุกสิทธิ อายุระหว่าง 15-59 ปี
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผง/ปี
2 วิธีรับบริการ
1. กรณีมีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน สามารถขอรับยาคุมกำเนิด ใน แอปเป๋าตัง เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือกบริการสร้างเสริมสุขภาพ เลือกหน่วยบริการที่จะไปรับ จองสิทธิ และไปรับภายในวันที่จองสิทธิ
2.กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
เริ่มแจก เดือน ก.พ. 2565 นี้เป็นต้นไป
ถุงยางอนามัย
- คนไทยทุกสิทธิอายุ 15 ปีขึ้นไป
- รับบริการได้ครั้งละ 10 ชิ้น/ สัปดาห์
-รอบการจ่าย 7 วัน รับได้ 1 ครั้ง
-ไม่จำกัดจำนวนถุงยาง/คน/ปี
-มีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม.
เช็กรายละเอียด คลังโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก.พ. – เม.ย. 65
เปิดสถิติหวยออกย้อนหลัง 5 ปี งวด 1 ก.พ.
วิธีรับ ใช้สมาร์ทโฟน Add Line สปสช. แล้วสแกน QR code ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการแจกถุงยางอนามัย (ดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช.) เพื่อรับถุงยางอนามัยตามไซส์
เริ่มแจก เดือนเมษายน 2565
สำหรับจุดให้บริการยาคุมกำเนิดและยุงยางอนามัย คือ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย คลินิกการพยาบาลฯ ร้านขายยา โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเวชกรรม และหน่วยบริการปฐมภูมิ