“บิ๊กโจ๊ก” ลุยสอบเส้นทางการเงิน “กำนันนก” สาวฮั้วปมประมูลโครงการ 7 พันล้าน

จ่อเอาผิด ตร.14 นาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ช่วยเหลือ “สารวัตรศิวกร”

“กำนันนก” โผล่นั่งกรรมการตรวจสอบ ตร.นครปฐม ผู้ว่าฯ สั่งปลดแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งโอนสำนวนคดีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ผู้ต้องหาคดีสังหารพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ ไปที่กองบังคับการปราบปราม ส่วนเรื่องการดำเนินคดีตำรวจตามมาตรา 157 หรือข้อหาให้การเท็จนั้น พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม จะเป็นผู้รับผิดชอบ และนำไปหารือกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ในวันพรุ่งนี้ 18 ก.ย. 66

ทั้งนี้ ส่วนการสอบสวนเรื่องเส้นทางการเงินของ กำนันนก ในที่ 19 ก.ย. 66 จะประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 7 หน่วยงาน การจับกุมในวันนี้เป็นการจับกุมแค่ปลายเหตุ แต่ต้องขยายไปถึงความผิดปกติ ว่าเหตุใดกำนันนก ถึงได้โครงการของรัฐกว่า 1,500  โครงการ มูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท  ซึ่งต้องขยายผลไปถึงตรงนี้ รวมถึงเส้นทางการเงินต่าง ๆ ว่ามีการโอนไปที่ไหนบ้าง

 

สำหรับกระแสข่าวที่ว่า  มีตำรวจบางนายขึ้นลำกล้องจะต่อสู้หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่ามีจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวนของกองปราบฯ

เมื่อถามว่าทำไมตำรวจที่ขึ้นลำกล้องไว้ถึงไม่ต่อสู้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ปฏิเสธตอบคำถามนี้ และขอให้ไปถามจากกองปราบฯ แต่ตามปกติแล้วความผิดซึ่งหน้า ตำรวจต้องทำหน้าที่จะมาอ้างว่าตกใจไม่ได้ เพราะอยู่ในที่เกิดเหตุ ต้องจับคนร้าย ต้องรักษาที่เกิดเหตุ เพราะเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

ด้าน พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า ในส่วนของการดำเนินคดีเกี่ยวกับมาตรา 157 ในกล้องวงจรปิดเห็นพฤติการณ์ของแต่ละคนชัดเจน กองปราบฯ จะนำไปพิจารณาต่อ ซี่งตอนนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องมากถึง  34 คน ก็จะนำไปพิจารณาให้ละเอียดและรอบคอบอีกครั้ง  ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน  

โดยตอนนี้การสอบสวนแยกเป็น 2 คดี คดีแรกคือคดีการเสียชีวิตของสารวัตรศิว มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง 7 คน เป็นพลเรือนทั้งหมด ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่น ส่วนกำนันนก ดำเนินคดีในข้อหาผู้ใช้ และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีก 5 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายพยานหลักฐาน ซึ่งได้แจ้งข้อหาฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดไปแล้ว

ขณะที่อีกหนึ่งคดีคือมาตรา 157 ปฏิบัติหรือพลเว้นการปฏิบัติหน้าที่หน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งกองปราบฯ ได้ดูสำนวนการสอบสวนไปแล้ว มีผู้ต้องหา 6 คน คือตำรวจที่มีการออกหมายจับและฝากขังไปก่อนหน้านี้