ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกับ “Custom Keyboard” คือการได้เห็นรุ่นพี่ในที่ทำงานใช้คีย์บอร์ดที่โดดเด่นสะดุดตา แถมยังมีเสียงและสัมผัสที่แตกต่างไปจากคีย์บอร์ดทั่วไป หลังจากนั้นการป้ายยาอันกว้างและลึกจึงเกิดขึ้น
ต้องบอกก่อนว่าอาจจะช้าไปอยู่เหมือนกันที่ได้เข้ามารู้จักวงการนี้ เพราะหลายคนเล่นกันมาก่อนสักพักใหญ่แล้ว จนเกิดเป็นคอมมูนิตี้ที่เอาไว้แลกเปลี่ยนความรู้และสินค้า ข้อมูลที่ได้มากขึ้นสวนทางกับจำนวนเงินในกระเป๋าไหลออกไป ไม่มีคำว่าตัวเริ่มต้นและตัวจบที่แท้จริง
5 จุดเช็กอิน “ย่างกุ้ง” ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง ชิมอาหารท้องถิ่น
เที่ยว “ตลาดท่าฬ่อ” ไหว้เจ้าแม่ทับทิม ชิมอาหารพื้นถิ่นสูตรไหหลำโบราณ
รู้จัก “Custom Keyboard”
“Custom Keyboard” คือการซื้อชิ้นส่วนแต่ละอย่างมาประกอบจนเป็น “Mechanical Keyboard” ส่วนตัว แล้ว Mechanical Keyboard คืออะไร
“Mechanical Keyboard” หรือ “คีย์บอร์ดกลไก” คือคีย์บอร์ดที่ทำงานโดยใช้กลไกของปุ่มตัวอักษร (Keycaps) ผ่านสวิตซ์ (Switch) ในการเชื่อมต่อกับแผงวงจร (PCB) ซึ่งให้สัมผัสและเสียงที่แตกต่างไปจากคีย์บอร์ดแบบยาง (Rubber Dome) ที่เรามักใช้กันก่อนหน้านี้
“Mechanical Keyboard” อาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับใครหลายคน คีย์บอร์ดประเภทนี้มีมานานกว่า 10 ปีแล้ว แรกเริ่มอาจเป็นคีย์บอร์ดของชาวเกมเมอร์ ที่ต้องการสัมผัสในการกดแป้นพิมพ์ที่สนุกและให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดที่เราใช้กันอยู่ทั่วไป
จุดเด่นของ “Mechanical Keyboard” นอกจากความสนุกในการกดแล้ว ยังมีลูกเล่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสวยงาม เสียงกระทบของแป้นพิมพ์ หรือสีของไฟที่เพิ่มเข้ามาให้เราได้เลือก แล้วนำมาปรับแต่งเองจนกลายเป็นคีย์บอร์ดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ส่วน “Mechanical Keyboard” ก้าวเข้ามาในกลุ่มคนใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้อย่างไร เรื่องนี้อาจไม่มีที่มาที่ไปอย่างแน่ชัด แต่เราจะเริ่มเห็นคีย์บอร์ดที่มีหน้าตาสวยงามเต็มไปหมดบนโลกโซเชียลในช่วงที่มีการเวิร์คฟอร์มโฮม จนหลายคนต้องมองหาอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการทำงานจากที่บ้าน
คีย์บอร์ดเป็นสิ่งที่เราจับเยอะที่สุด อุปกรณ์ชิ้นนี้จึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่หลายคนนำไปแต่งแต้ม จัดวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ในบ้านหรือห้องทำงาน นอกจากจะช่วยปรับทัศนียภาพของโต๊ะให้เพลิดเพลินสายตาแล้ว การได้อวดโฉมของคีย์บอร์ดที่สวยงามในแบบฉบับของตัวเองยังกลายเป็นความสนุก เพราะเป็นมุมที่แสดงความเป็นตัวของตัวเองให้คนรอบข้างได้เห็นถึงรสนิยมเกี่ยวกับอุปกรณ์ไอทีได้ด้วย
ประเภทของคีย์บอร์ด
Custom Keyboard มีให้เลือกหลายขนาด รองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน แบ่งออกตามขนาดและจำนวนปุ่มกดดังนี้
- คีย์บอร์ดขนาดเต็ม (Full-sized Keyboard) หรือเรียกว่าคีย์บอร์ด 100% เป็นคีย์บอร์ดขนาดใหญ่ที่เราคุ้นเดย ซึ่งเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการพิมพ์งาน แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่การจัดการพื้นที่อาจจะไม่สะดวกเท่ากับคีย์บอร์ดขนาดเล็กชนิดอื่น ๆ
- คีย์บอร์ดไร้ปุ่มตัวเลข (Ten Key Less Keyboard : TKL) หรือเรียกว่าคีย์บอร์ด 80% เป็นคีย์บอร์ดขนาดกลางที่ตัดส่วนปุ่มกดตัวเลข (Numpad) ออกไป ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่เกมเมอร์มาก ๆ เพราะมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป สามารถจัดสรรพื้นที่เล่นเกมได้สะดวก และยังมีปุ่มกดต่าง ๆ ครบครัน
- คีย์บอร์ดแบบกระทัดรัด (Compact Keyboard) หรือเรียกว่าคีย์บอร์ด 60% เป็นคีย์บอร์ดที่มีขนาดเล็กกว่า TKL พกพาสะดวก เหมาะกับการใช้งานกับโน้ตบุ๊ก เพราะเอาส่วนปุ่มกดตัวเลข (Numpad) และปุ่มกดบางฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นออกไป
สำหรับ Custom Keyboard แม้จะขึ้นชื่อว่าแป้นพิมพ์กลไก แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีชิ้นส่วนมากเท่าไร มีเพียง 5 ส่วนเท่านั้น ได้แก่
1. ตัวเคสคีย์บอร์ด (Case) คือ ตัวกรอบของ Mechanical Keyboard ทั้งหมด สำหรับบรรจุองค์ประกอบอื่น ๆ โดยชนิดของเคสก็มีให้เลือกหลากหลาย แต่ส่วนมากจะเป็นพลาสติกแข็ง และในบางรุ่นก็สามารถเป็นโลหะจำพวกอลูมิเนียมได้เช่นกัน
2. แผงวงจร PCB คือ แผงวงจรของ Mechanical Keyboard เป็นตัวรับสัญญาณและส่งสัญญาณของคีย์บอร์ดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อทั้งหมดของคีย์บอร์ด ไม่ว่าเราจะอยากให้คีย์บอร์ดมีแสงไฟ เชื่อมต่อแบบมีสาย/ไร้สาย และอยากจัด Layout ของปุ่มกดตัวอักษรแบบไหน ทั้งหมดก็สามารถกำหนดผ่านการเลือ PCB
3. เพลทสำหรับใส่สวิตซ์ คือ ชิ้นส่วนที่เอาไว้สำหรับล็อกตัวสวิตซ์ให้อยู่กับที่ ส่งผลให้เกิดเสียง สัมผัสตอนกด และความสวยงามของตัวสวิตซ์ที่แตกต่างกัน เป็นอีกหนึ่งส่วนที่นักประกอบ Mechanical keyboard เล่นกัน
4. สวิตซ์คีย์บอร์ด คือ ตัวกำหนดสัมผัสในการกดคีย์บอร์ด มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบโดยแต่ละรูปแบบนั้นจะมีเสียง และความเร็วที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงรองรับปุ่มกดตัวอักษรที่แตกต่างกันด้วย
หลัก ๆ แล้วการดูสวิตช์ส่วนใหญ่จะดูที่ประเภทของสัมผัสและน้ำหนักในการกด แบ่งออกเป็นสามแบบใหญ่ ๆ ได้แก่
- Clicky กดแล้วมีเสียงคลิ๊กตามชื่อ
- Tactile มีสัมผัสที่คล้ายตัว Clicky แต่ตัดเรื่องเสียงออก
- Linear สวิตช์ที่ให้สัมผัสแบบแรงต้านน้อย ไม่มีเสียง และกดได้แบบลื่นไหล
5. คีย์แคป คือ ส่วนที่เราใช้กดพิมพ์ ส่วนนี้เป็นส่วนที่เราจะได้ปลดปล่อยจินตนาการขอย่างเต็มที่ในการเลือกสีสัน หรือออกแบบแปลก ๆ มาใช้งาน นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ Mechanical Keyboard ของหลาย ๆ คน เพราะผิวสัมผัสของปุ่มกดที่แตกต่างกัน
สาเหตุที่หลายคนตกหลุมรัก
การปรับแต่ง Custom Keyboard ที่ทำได้หลากหลาย ทำให้คีย์บอร์ดชนิดนี้มีจุดเด่นหลายอย่าง ซึ่งต่อให้คุณไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องไอทีก็สามารถสนุกไปกับเรื่องนี้ได้
สาเหตุที่คนรัก Custom Keyboard อาจแตกต่างกันออกไปตามความชื่นชอบของแต่ละคน บางคนอาจชอบเพราะลวดลายหรือสีสันที่ปรับแต่งได้เองตามใจ หรืออาจเป็นเพราะสามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดจนเข้ามือของผู้ใช้งานได้
นอกจากนี้ยังรักษาความสะอาดได้ง่าย เพราะสามารถถอดปุ่มตัวอักษรต่าง ๆ ออกมาทำความสะอาด หรือถ้าหากบางปุ่มเสียก็ถอดแต่ละปุ่มออกมาเปลี่ยนได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยกแผงเหมือนคีย์บอร์ดที่เรามักใช้กันทั่วไป
จะเห็นได้ว่าโลกของ Custom Keyboard นั้นกว้างมาก สามารถเข้าถึงผู้คนได้หลากหลายสไตล์ ที่สำคัญยังช่วยให้หลายคนทำงานได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มคุณค่าทางจิตใจ การปรับแต่งคีย์บอร์ดให้เข้ามือ หรือความสะดวกในการทำความสะอาดก็ตาม จึงเป็นเหตุผลให้หลายคนเมื่อได้หลงเข้ามาในวงการนี้แล้ว ก็มักจะถอนตัวไม่ขึ้น แถมยังขยายโครงการคีย์บอร์ดของตัวเองออกไปเรื่อย ๆ ด้วย
ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหมื่น
Custom Keyboard มีหลายราคาด้วยกัน ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหมื่นกว่าบาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์ ประเภทของคีย์บอร์ด และฟังก์ชันการใช้งาน
ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ตามหน้าร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือจะสั่งผ่านออนไลน์ก็ได้ง่าย ๆ เช่นกัน
ส่วนการเลือกซื้อ แนะนำว่าให้เริ่มต้นจากการตั้งเป้าการใช้งานของตัวเองก่อน เช่น อยากได้คีย์บอร์ดเน้นพิมพ์, เชื่อมต่อแบบไร้สาย, ขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ เป็นต้น
โดยคีย์บอร์ดสำหรับสำหรับคนทำงานก็อาจเลือกคีย์บอร์ดประเภท Full Size เพราะสามารถใช้งานได้ครบครัน ได้ทั้งรองรับการเชื่อมต่อ Multi Device หรือมี USB Passthroughให้ใช้ ส่วนใครที่ต้องการแป้นพิมพ์ที่มีสีสันสวยงาม ผิวสัมผัสหนึบๆ หรือกดแล้วมีเสียงดังคลิก ๆ อาจเลือกเป็น Mechanical Keyboard แล้วเลือกใส่คีย์แคปตามที่ตัวเองชื่นชอบได้เลย
เที่ยว “ทุ่งนามอญ” เดินสะพานไม้ชมทุ่งนา กินข้าวแช่สูตรโบราณ
เที่ยว “วังเวียง” กุ้ยหลินเมืองลาว สัมผัสเสน่ห์ขุนเขา-สายน้ำ-ผู้คน