Situationship มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน ความสัมพันธ์แบบไร้สถานะ
Situationship คือ ความสัมพันธ์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง "เพื่อน" และ "แฟน" แต่ไร้สถานะที่ชัดเจน ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ Open Relationship หรือความรักที่มีความสัมพันธ์แบบหลายคน (Polyamory) โดยไม่มีข้อผูกมัดหรือข้อตกลงที่แน่นอน ทุกอย่างดำเนินไปตามสถานการณ์ และถูกขับเคลื่อนด้วยความยืดหยุ่นและอิสรภาพมากกว่าความสัมพันธ์แบบเดิม ๆ ที่เราคุ้นเคยกัน
ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป Situationship กำลังได้รับความนิยมในหมู่ Gen Z และวัยทำงานรุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่เปิดกว้างและไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ นิยามของ "ความรัก" ในปัจจุบันจึงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่คำว่า "เป็นแฟน" หรือ "ไม่เป็นแฟน" อีกต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับความสบายใจและข้อตกลงที่แต่ละคู่กำหนดไว้ระหว่างกัน
Situationship คืออะไร ความสัมพันธ์ของคนยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่ชัดเจน
Situationship คือ ความสัมพันธ์ที่อยู่ระหว่าง “มากกว่าเพื่อน” และ “มากกว่าคนคุย” แต่ยังไม่ถึงจุดที่เป็น “แฟน” ซึ่งคำนี้ถูกนิยามขึ้นโดย Urban Dictionary มาจาก 2 คำ ได้แก่ Situation (สถานการณ์) และ Relationship (ความสัมพันธ์) หมายถึง ความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกที่ไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน เต็มไปด้วยความซับซ้อน โดยพวกเขาอาจไปเดต ทำกิจกรรมแบบคู่รัก และมีความรู้สึกให้กัน แต่ไม่มีการแนะนำให้ครอบครัวหรือเพื่อนรู้จัก ไม่มีการเปิดตัวแบบ Official และที่สำคัญคือไม่ได้มีแพลนไปถึงอนาคต
แม้เป็นความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยอิสระและไม่ผูกมัด จนหลายคนสงสัยว่าแล้ว Situationship กับ FWB ต่างกันอย่างไร ในความจริงแล้วทั้งสองรูปแบบนี้มีความต่างกันพอสมควร เนื่องจาก FWB หรือ Friend With Benefits เน้นเรื่องความสัมพันธ์ทางกายเป็นหลัก และไม่คาดหวังให้ใครเอาใจลงไปเล่น
แต่ความสัมพันธ์ตามสถานการณ์นี้มีเรื่องความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรียกได้ว่าเป็นสถานะที่เดินหน้าต่อก็ไม่ได้ แต่ถอยกลับไปเป็นเพื่อนก็ไม่ไหวเช่นกัน ทำเอาหลายคนสับสนว่า “ตกลงเราเป็นอะไรกันแน่”
ทำไม Situationship เทรนด์ความสัมพันธ์ของชาว Gen Z ถึงกำลังได้รับความนิยม
ในยุคที่ความสำเร็จถูกนิยามด้วย "งานและเงิน" Situationship ได้กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เศรษฐกิจบีบคั้นให้คนรุ่นใหม่ต้องโฟกัสกับการเอาตัวรอดมากกว่าการสร้างอนาคตกับใครสักคน
โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center ได้พบว่า Gen Z และ Millennials มีแนวโน้ม แต่งงานช้าลงหรือเลือกที่จะไม่แต่งงานเลย เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าทางอาชีพและความมั่นคงทางการเงินมากกว่าการสร้างครอบครัว สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าความสัมพันธ์แบบไร้สถานะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการอิสระ แต่ยังคงมีปฏิสัมพันธ์ทางอารมณ์และความใกล้ชิด
และแม้ว่า Situationship จะมอบอิสระและความยืดหยุ่นได้ดี แต่หากขาดการสื่อสารที่ชัดเจน พื้นที่สีเทานี้อาจนำไปสู่ความสับสนและความเสียใจ เพราะหากฝ่ายหนึ่งต้องการความชัดเจน แต่อีกฝ่ายมองว่าเป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ดำเนินไปตามสถานการณ์ อาจก่อให้เกิดความคาดหวังที่ไม่ตรงกัน จนนำไปสู่ความเจ็บปวดในท้ายที่สุด
รู้ได้ยังไงว่ากำลังอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบ Situationship เช็กให้ชัวร์ก่อนตกอยู่ใน สถานะที่ “ไม่มีชื่อ”
ความสัมพันธ์แบบไม่มีสถานะอย่าง Situationship เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนและเต็มไปด้วยความสับสน บางครั้งก็รู้สึกเหมือนได้เลื่อนขั้นเป็น “คนพิเศษ” แต่ทำไมบางครั้งรู้สึกห่างเหินกันจัง ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานะที่ว่าแล้วหรือยัง? เช็กตามลิสต์นี้ได้เลย
- รู้สึกสับสนในความสัมพันธ์
ใน Healthy Relationship เราจะไม่ต้องคอยเดาใจอีกฝ่ายอยู่ตลอด เขาจะชัดเจนจนเราหมดสิ้นความสงสัย เช่น บางวันเขาก็ดูแลเราดีมาก ๆ เหมือนเราเป็นคนพิเศษ แต่ทำไมอีกวันก็เมินเราซะงั้น จนคุณเริ่มคิดแล้วว่า ตกลงเขาชอบตัวคุณจริง ๆ หรือมองเป็นแค่คนคั่นเวลาในความสัมพันธ์นี้กันนะ
- ทำตัวเป็นแฟนบางครั้ง แต่ไม่ใช่แฟนจริง ๆ
อยู่ใน Situationship ที่คนของคุณทำตัวน่ารัก เทกแคร์เก่ง มีสกินชิปตลอดตอนอยู่ด้วยกัน แต่พออยู่ในที่สาธารณะกลับไม่เคยแสดงออกว่าเป็นแฟน หรือมีคนถามแล้วบอกว่า “ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
- ไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
เขาไม่เคยพาคุณไปเจอครอบครัวหรือเพื่อนเลย ในโซเชียลก็ไม่มีการลงรูปคู่หรือแม้แต่แท็กหา หากเป็นความสัมพันธ์แบบจริงจัง เขาจะพร้อมให้คุณเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโลกของเขาอยู่แล้ว
- นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป
ความสัมพันธ์แบบแฟนต้องมีความสม่ำเสมอให้กัน ไม่ใช่อยากหายไปไหนก็ไป อยากกลับมาก็มาตอนที่สะดวก เช่น วันไหนเขาอารมณ์ดี ๆ ก็ตอบแชตแบบหวานอย่างกับคู่รัก แต่บางวันกลับอ่านแล้วไม่ตอบซะงั้น
- ในอนาคตของเขา ไม่มีเราอยู่ในนั้น
ถ้าคนที่คุณคบไม่เคยพูดถึงแพลนอนาคตระหว่างคุณสองคน หรือเขาอาจจะเล่าแพลนเรื่องต่าง ๆ แต่ไม่เคยมีการเอ่ยถึงคุณเลย นั่นก็สื่อได้ว่าเขาไม่ได้วางคุณไว้ในสถานะที่จะมีอนาคตร่วมกัน
- ไม่รู้สึกถึงความลึกซึ้งระหว่างกันและกัน
บทสนทนาที่คุยกันมักเป็นเรื่องผิวเผิน ไม่ใช่ Deep Talking ที่สะท้อนแนวคิดต่าง ๆ มากมาย ทำให้คุณไม่รู้สึกเชื่อมโยงกับเขาอย่างลึกซึ้ง ต่างกับคนที่รักคุณจริง เขาจะไม่ใช่แค่ฟังเรื่องราวของคุณ แต่เขาอยากเป็น Supporter ที่ดีที่ได้มีโอกาสช่วยหรือทำความเข้าใจคุณให้มากกว่านี้
Situationship ข้อดีข้อเสียที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
เป็นที่รู้แล้วว่า Situationship หมายถึง ความสัมพันธ์ที่ไร้การผูกมัด ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะรับกับความสัมพันธ์นี้ได้ นี่คือข้อดีและข้อเสียที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเริ่มต้นกับสถานะความสัมพันธ์รูปแบบนี้
ข้อดี
- มีอิสระสูง ยังคงมีไลฟ์สไตล์ตามที่ตัวเองชอบได้อย่างเต็มที่ ไม่มีพันธะเหมือนกับการมีแฟน
- ไม่ต้องคาดหวังกันและกันมาก ทำให้ไม่รู้สึกกดดัน ที่สำคัญคือไม่ต้องจูนกันมากเหมือนกับการเป็นคู่รัก
- เหมาะกับคนที่ยังไม่พร้อมมีแฟน ยังไม่ต้องการลงหลักปักฐานกับใคร สามารถเรียนรู้ไปได้เรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน
- ถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ก็ถอนตัวออกมาได้ง่ายกว่าความสัมพันธ์แบบแฟน
ข้อเสีย
- เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ตลอดเวลาที่มีความสัมพันธ์แบบ Situationship คุณอาจรู้สึกว่าทุกอย่างดูไม่มั่นคงและไร้เป้าหมาย
- มีโอกาสเจ็บปวดทางใจสูง หากมีฝ่ายไหนที่มีความรู้สึกที่มากกว่าที่ควรจะเป็นและอยากพัฒนาความสัมพันธ์ให้จริงจังมากขึ้นแต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน
- เสียเวลา และอาจทำให้คุณพลาดการเจอคนที่ใช่ตามที่คาดหวังเอาไว้
- คุณอาจตั้งมาตรฐานความรักต่ำลงโดยไม่รู้ตัว เพราะเคยชินกับความสัมพันธ์รูปแบบนี้และลืมไปว่าคุณคู่ควรกับสิ่งที่ดีกว่าเสมอ
รับมือกับ Situationship อย่างไรดี ไม่ให้กลายเป็น Toxic Relationship
Situationship เป็นความสัมพันธ์ที่ไร้ความชัดเจน แต่ไม่จำเป็นที่มันต้องเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ (Toxic Relationship) เสมอไป หากคุณรู้วิธีในการรับมืออย่างเหมาะสม ถ้าคุณอยากลองเปิดใจดูสักครั้งและเลือกแล้วว่ามันจะทำให้คุณมีความสุขก็สามารถลองนำทริกเหล่านี้ไปปรับใช้ดูได้
- ตั้งขอบเขตให้ชัดเจน : ก่อนเริ่มต้นความสัมพันธ์คุณควรคุยกับอีกฝ่ายว่า ทำแบบไหนบ้างที่คุณรับได้หรือไม่ได้ เพื่อเป็นการตั้งขอบเขตและข้อตกลงระหว่างกัน
- อย่าผูกความสุขไว้กับใคร แต่จงมีความสุขด้วยตัวเอง : ถ้าคุณเอาชีวิตไปผูกไว้กับเขา จะกลายเป็นความสัมพันธ์แบบด้านเดียวและท้ายที่สุดคุณจะเสียใจ ใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ อย่าให้เขากลายเป็น “โลกทั้งใบ” ของคุณเด็ดขาด
- อย่าให้ความหวังตัวเองมากไป : ความคาดหวังคือจุดเริ่มต้นของความทุกข์ ให้โฟกัสที่ปัจจุบัน ดื่มด่ำความสุขในวันนี้ ดีกว่าวาดภาพฝันถึงวันที่ไม่แน่นอน
- พูดคุยเปิดอก หากอยากพัฒนาความสัมพันธ์ : บอกความต้องการของตัวเองไป คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจมอยู่กับคำถามในหัว คำตอบของเขาจะทำให้รู้ว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้
- ไปต่อไม่ไหว ก็แค่เดินออกมา : ถ้ารู้สึกว่าไม่มีความสุขอีกต่อไปแล้ว ให้ยอมรับความจริงแล้วออกจาก Situationship นั้นซะ อย่าเอาแต่หลอกตัวเองว่าโอเค และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอกับคนที่พร้อมจะรักคุณจริง
Situationship ความสัมพันธ์แบบ “กั๊กสถานะ” ทำตัวฟีลแฟน แต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน
สรุปง่าย ๆ Situationship ก็คือความสัมพันธ์แบบไม่มีสถานะแน่ชัด แต่ยังคงมีความใกล้ชิดและความรู้สึกพิเศษระหว่างกัน บางคนมองว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ให้อิสระและไม่มีแรงกดดัน ขณะที่บางคนอาจรู้สึกสับสนและต้องการความชัดเจน สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าทั้งสองฝ่ายต้องการอะไร หากพอใจในรูปแบบนี้พื้นที่สีเทานี้ก็เป็นที่ฮีลใจได้เมื่อต้องการ แต่หากรู้สึกไม่มั่นคงหรือเริ่มต้องการมากกว่าสถานะที่เป็นอยู่ ก็อาจถึงเวลาที่ต้องพูดคุยหรือทบทวนว่าความสัมพันธ์นี้ยังดีต่อใจอยู่หรือเปล่า?