และในการเดินทางสู่อินเดียครั้งนี้เริ่มที่ “โกลกาตา” เมืองเมืองใหญ่แห่งอ่าวเบงกอล หลายคนบอกว่าจุดเด่นของที่นี่คือการสำรวจตัวเมืองเพื่อดูอารยธรรมอังกฤษ แต่ครั้งนี้ “ปักหมุดสุดขอบโลก” ขอคิดต่าง เพราะเราจะพาคุณมุ่งหน้าลงทางใต้เข้าสู่เขต “ซุนดาบัน” ที่ถูกจัดให้เป็นเขตป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับภารกิจสุดสนุกกับการตามหา “เสือเบงกอล” แบบตัวเป็นๆถึงแหล่งกำเนิด ณ ป่าชายเลนที่คนท้องถิ่นบอกไว้ว่า ทั้งชีวิตนี้คนซันดาร์บันมีเพียง 2 สิ่งที่กลัว 1 คือน้ำขึ้น และ 2 คือเสือเบงกอลนี่เอง
การออกตามล่า เสือเบงกอล เจ้าป่าซุนดาบันต้องใช้เรือในการค้นหา เพราะเสือเบงกอลเป็นเสือที่มีนิสัยต่างจากเสือชนิดอื่นคือจะปรากฎตัวให้เราเห็นได้เฉพาะตอนออกมาว่ายน้ำเท่านั้น
กวางลายจุด หรือกวางดาว เป็นสัตว์อีกชนิดที่พบในป่าซุนดาบัน โดยหากพบกวางออกมาเล็มหญ้าอย่างนี้นั่นหมายความว่าเราจะมีโอกาสพบเสือจะน้อยลงเพาะกวางจะพยายามห่างจากรัศมีของกลิ่นเสือให้มากที่สุด
คนนำทางท้องถิ่นต้องใช้สมาธิในการเพ่งมองเสือผ่านกล้องส่องทางไกล เขาอธิบายว่า เสือเบงกอลมีนิสัยดุร้าย จะออกล่าเหยื่อเมื่อหิวเท่านั้น โอกาสที่จะเห็นเสือเบงกอลได้คือตอนมันว่ายน้ำข้ามฝั่งระหว่างเกาะในเขตป่าแห่งนี้ และส่วนใหญ่เสือจะว่ายน้ำในช่วงเวลาที่ระดับน้ำลดลง
รอยเท้าเสือขนาดใหญ่ บนดินโคลน นี่เป็นรอยเท้าเสือเบงกอลตัวเต็มวัย ที่เพิ่งข้ามน้ำผ่านบริเวณนี้ไปไม่นานนัก
จระเข้น้ำเค็มตัวนี้ มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 2 เมตร เป็นจระเข้ที่มีนิสัยดุร้าย และถือเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของเสือเบงกอล ในป่าซุนดาบันด้วย
ไม้แสม และโกงกาง เป็นพืชที่พบได้มากในป่าซุนดาบัน มากถึง 26 สายพันธุ์ รวมถึงสัตว์น้อยใหญ่อีกนับไม่ถ้วน เพราะป่าซุนดายัน คือ ระบบนิเวศชายเลนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่ประมาณ 12 ล้านไร่
ติดตามว่าทั้งสองทั้ง 2 จะเจอเสือเพื่อแล่นสู่ภารกิจต่อไป หรือจะเกมส์ตั้งแต่ด่านแรก“ไปเห็นโลกกว้างขึ้น เห็นตัวเองเล็กลง” ไปด้วยกันกับฝ้ายและเก่ง ในรายการปักหมุดสุดขอบโลก อาทิตย์ที่ 25 มิ.ย. นี้ เวลา 15.50 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36