เมื่อปี 2007 ด้วยวัยเพียง 9 ปี ในโครงการ Honda Racing School ที่ต้องการปลุกปั้นเยาวชนไทย เข้าสู่วงการมอเตอร์ สปอร์ต จากนั้นในปี 2013 ได้รับคัดเลือกในรายการ Asia Talent Cup ก่อนจะขยับขึ้นมาในระดับโมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปียนชิป หรือศึกชิงแชมป์โลกเยาวชนรุ่นโมโตทรี (Moto3) ในปี 2017 จากนั้นในปีถัดมา 2018 "ก้อง" สมเกียรติ ได้โอกาสครั้งสำคัญในการได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด โมโตทรี เป็นครั้งแรก
ดอร์น่าสปอร์ต นำนักบิดทำกิจกรรม Pre-Event "โมโตจีพี VS มวยไทย"
ในรายการไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ โดยจบอันดับที่ 6 ก่อนจะขยับมาแข่งขันในรุ่นโมโตทูในอีก 1 ปีถัดมากับทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า เอเชีย (Idemitsu Honda Asia)
"ก้อง" สมเกียรติ ในเส้นทางโมโตทู (Moto2) ตั้งแต่ปี 2019 กับทีม “อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย” ในปีแรก "ก้อง" สมเกียรติ เก็บคะแนนได้ถึง 23 แต้มอยู่ในอันดับที่ 21 ของรุ่น ปี 2020 แข่ง 15 สนาม มี 10 แต้ม อยู่อันดับที่ 25 ส่วนในปี 2021 แข่งไป 18 สนาม เก็บได้ถึง 37 แต้ม อยู่อันดับที่ 18 ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าวผลงานดีที่สุดคืออันดับ 5 รายการออสเตรีย กรังด์ปรีซ์ ที่ในสนามนี้ทำสถิติเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (Fastest Lap) ด้วยเช่นกัน
ฤดูกาลปัจจุบัน 2022 "ก้อง" สมเกียรติ ยกระดับมาตรฐานการขับ แข่งไปแล้ว 15 สนาม ขึ้นโพเดียม ถึง 4 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการคว้า 1 แชมป์ประวัติศาสตร์ เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในสนามที่ 2 รายการอินโดนีเซีย กรังด์ปรีซ์ ที่มันดาลิกา เวลานี้ "ก้อง" สมเกียรติ อยู่อันดับ 9 มี 120 แต้ม และเหลือการชิงชัยอีก 4 สนาม โดยในสุดสัปดาห์นี้ ต้องมาลุ้นกันว่า โฮมเรซ ที่ ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ จะโชว์ผลงานให้แฟนความเร็วชาวไทยได้ประทับใจหรือไม่