อาการเหน็บชา เตือนภาวะขาดวิตามินบี 1 เสี่ยงโรคหัวใจ
อาการเหน็บชาบ่อยๆ อาจไม่ได้เป็นเพียงร่างกายกำลังขาดวิตามินบี 1 ท่านั้น หากแต่เป็นสัญญาณเตือนว่า มีการอักเสบรุนแรงเกิดขึ้นกับระบบประสาทและการทำงานของหัวใจ ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ
วิตามินบี 1 หรือไทอามีน (Thiamine) มีหน้าที่กระตุ้นการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ให้เป็นพลังงานของร่างกาย เพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวและเสริมสร้างการเจริญเติบโต ทั้งนี้ยังมีส่วนสำคัญในการดูแลระบบประสาท และการทำงานของระบบหัวใจ
ร่างกายจะสะสมวิตามินบี 1 ไว้ตามกล้ามเนื้อ สมอง และหัวใจ หากเกิดภาวะขาดวิตามิน ร่างกายจะค่อยๆ ใช้วิตามินที่สะสมไว้จนหมด ภายใน 1 เดือน การขาดวิตามินบี 1 ในระยะแรก อาจทำให้หัวใจเต้นช้าลง หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษาอาจเสี่ยงทำให้หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด
อาหารแก้เหน็บชา จากการขาดวิตามิน บำรุงเส้นประสาท อุดมสารอาหาร
รู้จักวิตามินแต่ละชนิด รับวิตามินธรรมชาติได้จากไหน? และอาการขาดวิตามิน
อาการที่เกิดขึ้น เมื่อเกิดภาวะ ขาดวิตามินบี 1
- อ่อนเพลีย ขาดมีสมาธิ ความจำไม่ดี หงุดหงิดง่าย
- เจ็บหน้าอก นอนไม่หลับ ท้องผูก อืด เบื่ออาหาร
- ชาตามปลายเท้าสองข้าง
- ปวดกล้ามเนื้อ ลุกไม่ขึ้น หากอาการรุนแรงอาจเป็นตะคริว ซึ่งมักเกิดในเวลากลางคืน
- มีอาการเหน็บชาตามปลายมือและปลายเท้า ทำให้รู้สึกเจ็บแปล๊บ
- เหนื่อยง่ายกว่าปกติ แขนขาอ่อนแรง ปัสสาวะลดลง ปวดตามน่อง อารมณ์แปรปรวน
- น้ำหนักลด
- เท้าบวม นอนราบไม่ได้ ผิวร้อน ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็วผิดจังหวะ
- มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ แขนขาอ่อนแรง รุนแรงจนเป็นอัมพาต และเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
การรักษาการ แพทย์จะทำการตรวจเลือดและปัสสาวะ เพื่อวินิจฉัยให้แน่ชัดว่าผู้ป่วยมีภาวะขาดวิตามินบี 1 หรือเกิดขึ้นจากภาวะแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากโรคทางกายชนิดอื่น สังเกตปริมาณของวิตามินที่ถูกขับออกมา บางรายอาจมีการตรวจหาค่าเอนไซม์จากเม็ดเลือดแดง (Erythrocyte Transketolase Activity) ในช่วงก่อนและหลังให้วิตามิน หากพบว่าการขาดวิตามินแบบไม่รุนแรง แพทย์จะให้รับประทานวิตามินบี 1 ชนิดอาหารเสริม วันละ 20-30 มิลลิกรัม ติดต่อกันประมาณ 3 สัปดาห์
6 สัญญาณ “โรคหัวใจ”คร่าชีวิตเฉลี่ย 2 คนต่อชม.ใครบ้างเสี่ยง?
อาการเตือน “หัวใจเต้นผิดจังหวะ” เสี่ยงภาวะหัวใจล้มเหลว-หลอดเลือดสมองอุดตัน
ผู้ที่เกิดภาวะหัวใจวาย แพทย์จะใช้การฉีดวิตามินบี 1 จำนวน 50-100 มิลลิกรัมเข้าสู่เส้นเลือดดำ เพราะตอบสนองได้ดีกว่า กรณีที่มีอาการทางประสาท ต้องฉีดเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2 ครั้ง จนว่าอาการจะดีขึ้น และให้รับประทานวิตามินเสริมต่อเนื่องวันละ 20-30 มิลลิกรัม
การป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากภาวะ ขาดวิตามินบี 1
- กินอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ ซึ่งถ้าเป็นวิตามินบี 1 จะพบได้มากในข้าวซ้อมมือ ไข่แดง เนื้อสัตว์ นม ถั่ว โยเกิร์ต น้ำส้ม น้ำมะเขือเทศ และธัญพืชเปลือกบาง
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายวิตามิน เช่น ปลาร้า หมาก พลู ชา หอยแมลงภู่ หอยกาบ
- ไม่รับประทานกุ้งดิบ เนื้อสัตว์ดิบ และปลาน้ำจืดบางชนิด เพราะมีเอนไซม์ Thiaminase ที่ลดการดูดซึม Thiamine
วิตามินบี 1 เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเอง ต้องได้รับจากการรับประทานเท่านั้น อีกทั้งร่างกายยังสามารถสะสมไว้ในจำนวนจำกัด จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 เป็นประจำ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช
รู้จัก “น้ำเชื่อมข้าวโพด” ภัยแฝงอาหาร กินเกินลิมิตเสี่ยงโรคอ้วน-โรคหัวใจ
ภัยเงียบ “โรคหัวใจ” ใครบ้างกลุ่มเสี่ยง ? ควรตรวจสุขภาพหัวใจ ป้องกันก่อนเกิดโรค