อ่อนเพลีย-ปวดเมื่อยง่าย อาจเป็นสัญญาณขาดวิตามินดี เสี่ยงโรคกระดูกพรุน
รู้หรือไม่?คนไทย1ใน3 มีภาวะขาดวิตามินดี ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลียและเสี่ยงโรคกระดูกพรุน-มะเร็งเพิ่มขึ้น
วิตามินดี Vitamin D มีความสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รวมทั้งยังมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย กลับกันพบว่า 1 ใน 3 ของคนไทย มีภาวะขาดวิตามินดีและพร่องวิตามินดี ซึ่งการมีระดับวิตามินดีที่ต่ำสามารถส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
วิตามินดี มีหน้าที่ในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างมวลกระดูก ที่ช่วยป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุนหรือกระดูกบางได้ และยังช่วยเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อ หัวใจ ปอด สมอง และอื่นๆ
รวมวิตามินบำรุงสายตา ลดจอประสาทตาเสื่อม เพิ่มการมองเห็นในที่มืด
อาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ใครบ้างเสี่ยง? วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน!

หากร่างกายมีภาวะขาดวิตามินดี จะทำให้ร่างเกิดการดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง ทำให้มวลกระดูกลดลง เสี่ยงต่อการแตกหักง่าย และยิ่งเราปล่อยให้ร่างกายขาดวิตามินดีนานเข้าอาจก่อให้เกิดโรคร้ายที่อาจตามมาได้ อาทิ
-
โรคกระดูกพรุน
-
โรคหัวใจและหลอดเลือด
-
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
-
โรคปลอกประสาทอักเสบ
-
โรคมะเร็ง
กลุ่มเสี่ยงขาดวิตามินดี
-
ผู้ที่ใช้ครีมกันแดด หรือใส่เสื้อผ้ามิดชิดเป็นประจำ
-
ผู้ที่อยู่แต่ในที่ร่ม ทำให้ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
-
ผู้สูงอายุ
-
ผู้ที่มีสีผิวคล้ำ เนื่องจากยิ่งมีผิวที่เข้ม ส่งผลให้ได้รับรังสียูวีจากแสงแดดน้อย
-
ผู้ที่มีภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน
-
มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
สัญญาณขาดวิตามินดี ?
การตรวจร่างกายเป็นวิธีเดียวที่ทำให้คุณทราบว่ามีระดับวิตามินดีเพียงพอหรือไม่ โดยสามารถตรวจระดับวิตามินดีได้ด้วยการตรวจเลือดในห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้หากพบว่าตนเองมีอาการดังต่อไปนี้ อาจแสดงถึงว่าคุณยังมีวิตามินดีไม่พอ
-
รู้สึกเหนื่อย หรืออ่อนเพลียง่าย
-
มีอาการปวดเมื่อยอย่างไม่ทราบสาเหตุ
-
กล้ามเนื้ออ่อนแรง
-
ปวดกระดูก
ทั้งนี้ การมีอาการดังกล่าวข้างต้นไม่สามารถบอกว่าคุณขาดวิตามินดีได้ทั้งหมด อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ได้เช่นกัน
วิธีออกกำลังกายเพิ่มมวลกระดูก ลดภาวะกระดูกพรุนเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจ
วิธีเพิ่มวิตามินดี
การได้รับแสงแดดเป็นสิ่งที่สามารถเพิ่มวิตามินดีของเราได้ โดยเพียงรับแสงแดดในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นเวลา 5-15 นาที ก็ทำให้ได้รับวิตามินดีมากกว่า 90% ของความต้องการของร่างกายแล้ว
การกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิจามินดีธรรมชาติ เช่น ปลาที่มีไขมันสูง ชีส หรือไข่แดง ก็ช่วยได้เช่นกัน
วิตามินดีในรูปของอาหารเสริม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่การหาซื้อมากินเอง โดยที่ไม่ทราบว่าตนเองมีภาวะขาดวิตามินดีหรือไม่ อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง อาการแพ้ที่ผิวหนังได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
วิตามินสำหรับนักวิ่ง เพิ่มความฟิต ลดความเมื่อยล้า ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
กลุ่มเสี่ยงกระดูกพรุน ไม่ใช่แค่สูงอายุ เผยสัญญาณที่ควรรีบพบแพทย์