รู้จัก “ไขมันทรานส์” ตัวการเสี่ยงโรคหัวใจที่ซ่อนอยู่ในอาหารจานโปรด
“หมอโอ๊ต” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แนะวิธีหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์หลัง WHOออกมาเตือนและเรียกร้องให้ทั่วโลกยุติการใช้ไขมันทรานส์ เนื่องจากพบ 5 พันล้านคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนะเดินทางสายกลาง เพิ่มไขมันดีสู้ไขมันเลว
จากกรณีที่ องค์การอนามัยโลก (WHO)ออกมาเตือนและเรียกร้องให้ทั่วโลกยุติการใช้ไขมันทรานส์ (Trans Fat) ในอุตสาหกรรมอาหารได้แล้วภายในปีนี้ หลัง 5 พันล้านคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น
คุณหมอโอ๊ต นายแพทย์พงศกร จินดาวัฒนะ ผู้อำนวยการอาวุโสโครงการพิเศษพัฒนาศักยภาพด้านการสื่อสาร ประจำศูนย์การแพทย์ รพ.กรุงเทพ ไขความสงสัยเกี่ยวไขมันทรานส์ (Trans Fat) ที่มีจุดเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมสบู่ต่อมา
‘ไขมันทรานส์’ | อาการน่าเป็นห่วง EP.48
5 พันล้านคนทั่วโลกเสี่ยงโรคหัวใจเพิ่มขึ้นจากไขมันทรานส์
เมื่อพบว่า สามารถคงสภาพของไขมันไว้ได้จึงปรับมาใช้กับอุตสาหกรรมอาหารเพื่อยืดอายุของอาหารทำให้ถึงแม้จะผ่านเวลาไปนานยังมีรสชาติที่อร่อยอยู่ ไขมันทรานส์ นับเป็นกระบวนการอุตสาหกรรมถนอมไขมันธรรมชาติให้คงรูปและอยู่ได้นานมากขึ้น โดยการเดิมไนโตรเจน เข้าไปในกลุ่มไขมันไม่อิ่มตัว ทำให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้นขนส่งได้ไกลขึ้นนั้นคือที่มาและข้อดีของไขมันทรานส์
คุณหมอโอ๊ต ยังบอกต่อว่า อะไรที่มีข้อดี ก็มีข้อเสียที่ตามมาเช่นกัน จากการศึกษาพบอันตรายจากไขมันทรานส์ที่เข้าไปเพิ่มการเกิดโรคหัวใจโดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจอย่างมีนัยสำคัญมาก เพราะไขมันทรานส์ยังเข้าไปเพิ่มไขมันเลว Low Density Lipoprotein (LDL) ในร่างกายให้สูงขึ้น ในขณะที่ไขมันดี High Density Lipoprotein (HDL) ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจะลดลง นอกจากโรคหัวใจและหลอดเลือดแล้วยังพบว่าไขมันทรานส์ยังสัมพันธ์กับโรคเบาหวานเพราะจากกระบวนการย่อยสลายไขมันทรานส์ทำให้การใช้ฮอร์โมนอินซูลินผิดปกติ
ไขมันทรานส์อยู่ในอาหารประเภทไหนบ้าง ?- พบมากในอาหารอุตสาหกรรมที่ผลิตครั้งละมากๆ อย่างเช่น อาหารแช่แข็งที่ส่งออกเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะกลุ่ม โดนัท เบเกอร์รี่ พิซซ่า
- น้ำมันบางชนิด(ที่ไม่ใช่น้ำมันจากธรรมชาติ) ซึ่งสามารถใช้น้ำมันได้แต่คำนึงถึงสัดส่วนและปริมาณการใช้เพื่อสุขภาพที่ดี หรือเลือกใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันคาโนล่า
- ของทอดชุ่มน้ำมัน
- กลุ่มเนยขาว ครีมเทียม
อย่างไรไม่ใช่อาหารเหล่านี้จะมีไขมันทรานส์ทั้งหมด เราสามารถสังเกตได้จากข้างกล่องที่จะระบุ เปอร์เซนต์ของ Trans Fat เอาไว้ชัดเจน ปัจจุบันทุกประเทศ แทบไม่มีการผลิตแล้วเพราะ WHO ได้ออกมาเรียกร้องอย่างจริงจัง ซึ่งประเทศไทยได้ประกาศห้ามใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ตั้งแต่ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยระดับหนึ่งแต่อย่างไรก็ตามอาจต้องมีการเช็กเพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง
สัญญาณเตือน บริโภคไขมันทรานส์สะสมในร่างกายเยอะ
- เหนื่อยง่าย
- แน่นหน้าอก
- ออกกำลังกายได้น้อยลง
วิธีการเพิ่มไขมันดี HDL บอกลาไขมันทรานส์ ?
คุณหมอโอ๊ต เปิดเผยว่า ไขมันดีเกิดจากการทำงานของร่างกาย ทั้งการออกกำลังกาย โดยจากการวิจัยระบุว่า เมื่อเราบริโภคของไม่ดีหรือไขมันทรานส์ในปริมาณมากๆ สามารถลบล้างด้วยการกินอาหารที่ดีมีประโยชน์เพื่อช่วยในการบาลานซ์ลดไขมันทรานส์ลงอย่างเช่น
- ธัชพืช
- เมล็ดพืช เมล็ดฟักทอง
- ถั่ว
- งาขาว งาดำ
- แก้วมังกร
- แอปเปิ้ล
- ชมพู่
- เบอร์รี่ต่างๆ
- ผักใบเขียว เช่น ผักเคล บล็อกโคลี่ ปวยเล้ง คะน้า พริกหวาน บีทรูท ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ มะเขือม่วง
ซึ่งการหาบาลานซ์ในชีวิตจึงเป็นเรื่องสำคัญ ตามคำที่ว่า You are what you eat กินอะไรสภาพร่างกายคุณก็เป็นอย่างงั้น เราสามารถเลือกได้ ซึ่งอาหารที่เราชอบ อย่างอาหารแช่แข็ง นานๆกินทีได้ เพื่อไม่ให้ตึงเครียดเกินไปนักเดินทางสายกลาง แต่ขอให้เลือกดูฉลากปริมาณไขมันทรานส์ที่เลี่ยงได้ควรเลี่ยงเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น
ข้อมูลสุขภาพ : บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) : BDMS
เช็กสัญญาณ“ไขมันพอกตับ”จุดเริ่มต้น ตับแข็ง – มะเร็งตับ คนผอมก็เสี่ยงได้!