แพทย์เผย 40% ของโรคกระดูกพรุนเกิดจากกรรมพันธุ์ ลดความเสี่ยงป้องกันได้!
กระดูกพรุน ภัยเงียบที่หลายคนคิดว่าเกิดจากปัจจัยเสี่ยง หรือ อายุที่เพิ่มขึ้น แต่อันที่จริง 40 %ของผู้ป่วยพบว่าเกิดจากกรรมพันธุ์
โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) ส่วนหนึ่งมาสาเหตุจากกรรมพันธุ์ หากบิดามารดามีประวัติกระดูกสะโพกหัก แสดงว่าลูกมีโอกาสที่จะเกิดกระดูกสะโพกหักสูงเช่นเดียวกัน ทางการแพทย์พบว่า 40% ของโรคกระดูกพรุนเกิดจากผู้ป่วยที่มีกรรมพันธุ์ ทำให้กระดูกสลายตัวเร็ว ส่วนอีกประมาณ 50% – 60% ของโรคกระดูกพรุนเกิดจากสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ออกกำลังกาย ได้รับแคลเซียมหรือวิตามินดีไม่เพียงพอ โรคประจำตัวบางชนิด โรคกระดูกพรุนจึงเป็นส่วนผสมระหว่างกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์เพียงอย่างเดียว
กลุ่มเสี่ยงกระดูกพรุน ไม่ใช่แค่สูงอายุ เผยสัญญาณที่ควรรีบพบแพทย์
วิธีออกกำลังกายเพิ่มมวลกระดูก ลดภาวะกระดูกพรุนเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจ
กระดูกพรุนจากกรรมพันธุ์คืออะไร
โรคกระดูกพรุนจากกรรมพันธุ์มียีนหลายชนิดที่เกี่ยวข้อง เช่น ยีนเกี่ยวกับการสร้างคอลลาเจน ยีนเกี่ยวกับการกระตุ้นให้มีการสลายกระดูกต่าง ๆ เป็นต้น ไม่ได้เกิดจากยีนเพียงตัวเดียวที่กำจัดออกไปได้ จึงต้องใช้การรักษาที่มีในปัจจุบัน คือ
-
การรับประทานแคลเซียม
-
การรับประทานวิตามินดี
-
การออกกำลังกาย
-
ยารักษาโรคกระดูกพรุนที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
รวมทั้งการตรวจรายบุคคล ซึ่งการตรวจเพียงครั้งเดียวไม่สามารถสรุปความเสี่ยงของแต่ละบุคคลได้ว่าใครเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนมากหรือน้อยกว่ากัน
กินแคลเซียมทุกวันกระดูกไม่พรุนแน่นอนจริงหรือไม่?
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญต่อกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง การได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอในผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เพราะเป็นวัยที่มีการสลายของกระดูกมาก มีการขับแคลเซียมออกจากร่างกายมาก จึงต้องรับประทานแคลเซียมให้เพียงพอ แต่การรับประทานแคลเซียมอย่างเดียวไม่ได้การันตีว่าจะไม่เป็นโรคกระดูกพรุน หากผู้ป่วยมีอัตราการสลายกระดูกและขับแคลเซียมมากเกินไป ย่อมมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดกระดูกหัก จึงต้องรับประทานยารักษาโรคกระดูกพรุนที่เหมาะสมเฉพาะบุคคลร่วมด้วย
4 อาหารยิ่งกินกระดูกยิ่งพรุน ทำลายแคลเซียมส่งผลเสียต่อไต!
ปริมาณแคลเซียมที่แต่ละช่วงอายุควรได้รับเป็นอย่างไร
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็น ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำแตกต่างกันไปตามช่วงวัย ได้แก่
-
เด็ก เนื่องจากกระดูกมีขนาดเล็ก ปริมาณแคลเซียมที่ได้รับต่อวันจะน้อยกว่าผู้ใหญ่ อยู่ที่ 600 มิลลิกรัมต่อวัน
-
ผู้ใหญ่ เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป การรับประทานแคลเซียมอาจช่วยอะไรได้ไม่มากนัก เพราะมวลกระดูกมาถึงจุดสูงสุด แต่ถ้าไม่ต้องการให้มีการสลายตัวของกระดูกมากขึ้น แนะนำปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับ 600 มิลลิกรัมต่อวัน
-
หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ต้องรับประทานแคลเซียมมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อร่างกาย ปริมาณที่ควรได้รับอยู่ที่ 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน
-
ผู้สูงอายุ ควรเสริมแคลเซียม เพราะมวลกระดูกเริ่มสลายตัว ปริมาณที่ควรได้รับอยู่ที่ 800 – 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและสภาพร่างกาย
ทั้งนี้หากพบว่าตัวเองมีความเสี่ยงกระดูกพรุนควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินวินิจฉัยเพื่อชะลอป้องกันโรค ลดปัจจัยเสี่ยงเพิ่มคุณภาพชีวิตได้เพิ่มขึ้น!
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล
อ่อนเพลีย-ปวดเมื่อยง่าย อาจเป็นสัญญาณขาดวิตามินดี เสี่ยงโรคกระดูกพรุน
10 อาหารเพิ่มแคลเซียมชะลอกระดูกพรุน ดูแลตัวเองไม่ต้องรอให้สูงอายุก่อน!