ชำแหละพิรุธคดีฮั้ว สว. แฉอำนาจเจริญเป็นเซ็นเตอร์ทำโพย?

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ผู้สมัคร สว. แฉ อำนาจเจริญเป็นเซ็นเตอร์ทำโพยฮั้วเลือกตั้ง สว. ขณะที่ iLaw ชำแหละพิรุธกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

คดีฮั้วเลือก สว. กลับมาร้อนแรง หลังมีเหตุผู้ว่าฯ อำนาจเจริญทำจดหมายด่วนถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ข่มขู่อดีตผู้สมัคร สว. ให้สารภาพคดีฮั้ว สว. จึงเกิดคำถามตามมาว่า ทำไมต้องอำนาจเจริญ และเกิดกระแสว่า ที่นี่อาจเป็นศูนย์กลางโพยฮั้ว สว.

นอกจากนี้ กรณีมุมมองเชิงการเมืองว่า สถานการณ์ตอนนี้เป็นเกมการเมืองหรือไม่ เพราะ สว. มีบ้านน้ำเงิน “พรรคภูมิใจไทย” คุมอยู่ ส่วนบอร์ดดีเอสมี นายภูมิธรรม เวชยชัย จาก “พรรคเพื่อไทย” คุม

คอนเทนต์แนะนำ
มติแพทยสภา ลงโทษ 3 แพทย์คดีจริยธรรม ปม "ทักษิณ" ชั้น 14
แฉ! ตัวใหญ่ฮั้ว สว. มีชื่ออยู่ในเอกสารหลุดผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ
สะพัด! กกต. จ่อฟัน สว. ล็อตแรก 60 คน คดีฮั้ว สว.

ชำแหละพิรุธคดีฮั้ว สว. แฉอำนาจเจริญเป็นเซ็นเตอร์ทำโพย? ช่างภาพพีพีทีวี
การเลือก สว. 2567

ทำไมต้องอำนาจเจริญ?

พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้สมัครสว. กล่าวว่า พื้นที่อำนาจเจริญมีการจัดระบบการฮั้วเป็นล่ำเป็นสัน มีกลุ่มการเมืองใหญ่ที่ควบคุมอยู่ หาคนมาสมัคร จัดระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้คนน้อย แค่ 300 กว่าคน ประหยัดต้นทุน ทำให้ได้คนที่เป็นตัวแทนมาถึงการเลือก สว. ระดับประเทศถึง 39 คน ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก

“ที่สำคัญ อำนาจเจริญมี 2 ผู้ยิ่งใหญ่คุม ก่อนเลือก สว. มียังเติร์ก (Young Turk) เสนอแผนการที่จะทำให้ได้ สว. 120 คน รับประกันคะแนนไม่น้อยกว่า 60 ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ผู้ยิ่งใหญ่โอเค จังหวัดต่าง ๆ จึงไปดำเนินการตามแผน แต่ทำได้เฉพาะจังหวัดที่มีเครือข่ายนะ พอถึงระดับประเทศที่มีคนเข้ามา 3,000 คน ก็มีข้อมูลว่าเป็นคนของเขาประมาณ 1,100 คน กระจายตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งอำนาจเจริญมีมากถึง 39 คน” พล.ต.ท.คำรบกล่าว

เขาเสริมว่า “เมื่อเข้าระดับประเทศแล้ว ก็มีการจัดทำรายงานว่าแต่ละจังหวัดมีใครชื่ออะไรบ้าง จังหวัดคุณมีผู้สมัครในเครือข่ายกี่คน หมายเลขอะไร มีโควตาให้ ส่งโผรายชื่อพร้อมหมายเลข แล้วส่งให้ ‘เจ๊ใหญ่’ ในอำนาจเจริญ เป็นเซ็นเตอร์รับโผรายชื่อ ส่งให้ผู้มีอำนาจอนุมัติว่าจะจิ้มให้ใครเป็น สว.”

พล.ต.ท.คำรบบอกอีกว่า จากนั้นจะได้เบอร์ต่าง ๆ ทำเป็นโพยออกมา กลุ่ม 1 เบอร์อะไรบ้าง จนครบ 20 กลุ่ม พอได้โพยต้นฉบับ ก็ส่งตามโรงแรมช่วงวันที่ 23-24-25 มิ.ย. ที่มาเหมาโรงแรมอยู่กัน

“ขบวนการต้นทางทำโพยมีเซ็นเตอร์อยู่อำนาจเจริญ มีเครือข่ายตรงนั้น ทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่ดีเอสไอคงโฟกัส” พล.ต.ท.คำรบกล่าว

อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่ดีเอสไอประกาศว่า ใครที่ร่วมในขบวนการฮั้วแล้วอยากมาให้การ สามารถกันตัวเป็นพยานได้ คนเหล้านี้กลับใจติดต่อขอให้การในช่วงแรก

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ดีเอสไอลงพื้นที่สอบสวนครั้งแรก ปรากฏว่าระหว่างสอบมีรถมาจอดดูมาถ่ายรูป พอคนถูกสอบออกมาก็ถูกนำตัวขึ้นไปรถพาไปสถานีตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันว่าถูกบังคับกดดันให้สารภาพ

“ต่อมาอีเอสไอจึงไปบ้านอดีตผู้สมัครเลยช่วงวันที่ 4 พ.ค. ช่วง 4-5 โมงเย็น แต่ผู้ว่าฯ อำนาจเจริญกลับทำหนังสือรายงานเช้าวันที่ 5 พ.ค. พร้อมบันทึกประจำวันว่าถูกกดดัน แปลว่า พอดีเอสไอไปสอบสวนเสร็จ ต้องมีคนมาไปโรงพักอีก เป็นขบวนการสอดรับกันไปหมด ซึ่งเรื่องนี้มีแหล่งข่าวบอกว่า ตำรวจมีส่วนด้วย 5-6 คนที่ช่วยดำเนินการ” พล.ต.ท.คำรบบอก

นอกจากนี้ อำนาจเจริญยังมีพิรุธ เพราะพยายามทำหนังสือเรื่องการสอบสวนของดีเอสไอมาตั้งแต่ 13 มี.ค. หารือเรื่องข้อกังวลต่าง ๆ จากการที่ดีเอสไอจะเข้ามาสอบสวน “จะเห็นว่าอำนาจเจริญแอคชั่นเรื่องนี้มาตลอด พอดีเอสไอไปสอบรายงานทันที”

ด้าน คุณยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เสริมว่า การเลือก สว. ระบบนี้ ทุกจังหวัดจะได้ตัวแทน 40 คนไประดับประเทศเท่า ๆ กัน คนที่หวังคุมเกมทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องลง 77 จังหวัด สัก 20-30 จังหวัดก็พอ ซึ่ง กทม. เชียงใหม่ พวกจังหวัดที่มีผู้ใหญ่เยอะ คนดังเยอะ แข่งยาก ก็ไปลงจังหวัดเล็ก เช่น อำนาจเจริญ สตูล อ่างทอง ยโสธร ฯลฯ

“อำนาจเจริญเป็นจังหวัดที่ไม่มีผู้ใหญ่ส่วนกลางไปแข่ง พอเข้ารอบประเทศ 40 คน ก็เข้าแทบทั้งหมด จาก 39 คน ผ่านเข้ารอบเข้า 36 คน ตก 3 คน ซึ่ง 2 คนในนี้ได้ 0 คะแนน เป็นกลุ่มที่เรียกว่าพลีชีพเพื่อให้ผู้สมัครคนอื่นเข้ารอบแบบถล่มทลาย” คูณยิ่งชีพกล่าว

ผู้จัดการ iLaw บอกว่า พอเป็นแบบนี้ คนที่ได้คะแนนเยอะก็จะได้แบบเยอะเลย คะแนนล้นกระดาน กกต.เตรียมกระดานมา 50 คะแนน แต่ล้น เกิน 50 คะแนน จนต้องเอาอีกกระดานมาต่อ เกิดเป็นกราฟไม่ปกติ คนได้เยอะเยอะเลย ไม่มีตรงกลาง น้อยคือกลับบ้านเลย ซึ่งไม่ปกติ ถ้าเลือกปกติ คะแนน 30-35 คะแนนก็ชนะแล้ว แต่นี่มา 50-60 คะแนน ที่น่าสังเกตคือ ทุกจังหวัดที่มาในลักษณะนี้มี สส.พรรคการเมืองเดียวกัน คือ ภูมิใจไทย

ชำแหละพิรุธ “สว.อลงกต”

ในส่วนของประเด็นร้อนที่มีการเปิดเผยภาพ สว.อลงกต วรกี ลุกเดินอย่างผิดสังเกตในวันที่มีการเลือกตั้ง สว.ระดับประเทศ คุณยิ่งชีพเล่าว่า ในวันดังกล่าว ผู้สังเกตการณ์ของ iLaw สามารถเข้าไปได้ 3 คน เห็น สว.อลงกตเดินไปเดินมา ไม่นั่ง ทุกท่านจะมีที่นั่งตัวเอง ท่านเดินนานจนผิดสังเกต

“พอเห็นผิดสังเกต ผู้สังเกตการณ์ของเราเลยถ่ายรูปไว้เยอะ ท่านยืนหน้าหีบ แล้วก็มีคนเข้าคูหาอยู่ แต่ตัวเองไม่นั่งที่ กกต.ก็ไม่ไล่  ท่านอยู่สาย ก. ใหล้จุดที่ผู้สังเกตการณ์เราอยู่ เราเลยเห็น สายอื่นไม่เห็น แต่มีรายงานว่า มีคนพฤติกรรมแบบนี้ทุกสาย แต่ไม่มีภาพ” คุณยิ่งชีพกล่าว

เขาเสริมว่า ภาพทั้งหมดถ่ายช่วง 2-3 ทุ่ม มีเวลายืนยันว่าท่านอลงกตลุกเดินตั้งแต่เวลา 20.27 น. ลุกเดินแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ยังอยู่ในขั้นตอนการเลือก ท่านเดินนานกว่าครึ่งชั่วโมง เดินไปมาจนมีภาพเต็มไปหมด คนอื่นนั่ง ไม่ใช่ตี 4 ตามที่ท่านออกมาให้สัมภาษณ์  ถ้าตี 4 ผู้สมัครจะนอนแล้ว

และที่บอกว่าไปคุยกับประธาน กกต. เรื่องว่าใช้โทรศัพท์ได้หรือไม่ ออกไปข้างนอกได้หรือไม่ ขอเรียนว่า ประธาน กกต.เดินออกไปตั้งแต่ตี 2 การไปคุยตอนตี 4 ไม่จริงแน่นอน

คุณยิ่งชีพบอกว่า “ไม่ได้บอกว่าท่าน สว.อลงกตทำอะไรผิดนะ เดินได้ แต่ท่านเดินตอนคนอื่นไม่เดิน และทุกสายมีคนแบบนี้ ... ภาพรวมการเลือก สว. ปัญหาแสดงทางตัวเลข คะแนนล้นเท่ากันทุกกลุ่ม 6 คน ถ้าบางคนเก่งมากดังมากก็โอเค แต่นี่ 6 คนทุกกลุ่ม มันไม่ปกติ ก็ควรตั้งข้อสังเกตไว้ก่อน ปรากฏมีคนลุกเดินไปมา น่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ดี”

ขณะที่ คุณอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล ตัวแทนกลุ่ม สว.สำรอง บอกว่า ในการเลือก สว.ระดับประเทศ ทุกคนต้องนั่งเก้าอี้ตัวเอง คนที่ยังไม่เสร็จต้องนั่งกับที่ ดูใบแนะนำ ถ้าจะเข้าห้องน้ำยังต้องลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่

“เรื่องลุกยืนไม่ต้องพูดถึง แค่หันยังโดนกำชับเลยให้อยู่นิ่ง ๆ อย่าคุยโน่นนี่ ... ส่วนตอนตี 4 ผมอยู่สาย ง. เห็นผู้สมัครบางคนออกไปกินกาแฟ ดึงเก้าอี้มาต่อนอน ต่อให้นับคะแนนก็ไม่สนว่าได้กี่คะนน ไม่ดูคะแนน พอเลือกเสร็จนอนเลย เป็นผมนี่ผมจะดูตลอดเวลาว่านับผิดนับถูกหรือไม่ และขอยืนยันอีกเสียงว่า ภาพไอลอว์ถ่ายตอนหัวค่ำแน่ ๆ ไม่ใช่ตี 4” คุณอัครวัฒน์กล่าว

เป็นศึกแดง-น้ำเงินหรือไม่?

กรณีข้อสงสัยว่าคดีฮั้ว สว. เป็นการงัดข้อกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น คุณอัครวัฒน์มองว่า จริงอยู่คนที่มาอยู่บอร์ดดีเอสไอคือท่านภูมิธรรม มาจากเพื่อไทย ส่วนรัฐมนตรียุติธรรมคือ ท่านทวี สอดส่อง อยู่พรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

แต่ส่วนตัวมองว่า นี่เป็นเรื่องของหน้าที่ที่ท่านต้องทำ เป็นการที่หน่วยงานทำตามหน้าที่ พรรคไหนก็ตามที่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าวก็ต้องทำ ย่อมต้องปฏิบัติตามที่มีคนมาร้องให้สุจริตเที่ยงธรรม

ขณะที่คุณยิ่งชีพมองว่า พรรคแดงกับพรรคน้ำเงินแตกคอกันหลายเรื่องมากกว่าเรื่อง สว. แต่ข้อสังเกตคือ ถ้าพรรคน้ำเงินไม่มีอำนาจ คงไม่กล้าหัก ถ้าเขามี สว. ในมือ อาจมีอำนาจต่อรองมากขึ้น ถ้า สว. ยังอยู่ เพื่อไทยทำงานไม่ได้ บางนโยบายอาจติดแหงกอยู่ที่สภาสูง ก็เป็นเรื่องที่น่าสังเกต

คดีฮั้ว สว. ไม่มีทางจบง่าย ๆ

ผู้จัดการ iLaw มองว่า คดีฮั้ว สว. ไม่มีทางจบในเวลาอันรวดเร็ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเครือข่ายที่ใหญ่มาก ไม่มีทางปิดเรื่องนี้ได้ในปีนี้ ตอนมีข่าวว่าจะตั้งข้อหา สว. 60 คนส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อว่าจะเร็วได้ขนาดนั้น

“ถ้า กกต.ทำ 2 สัปดาห์แรกหลังเลือกตั้ง อาจเป็นไปได้ ต้องไม่รับรองผล แต่พออู้มานาน 10 เดือน ไม่ค่อยเชื่อ ดีเอสไอเองเพิ่งมาสอบสวน ไม่มีทางสรุปปิดคดีได้ ถ้าทำได้ก็หลวม คราวนี้ยิ่งดูเป็นเรื่องการเมืองเลย” คุณยิ่งชีพกล่าว

เขาเสริมว่า แต่ที่น่าสนใจคือ ถ้าคดีเสร็จปี 2569 หรือ 2570 สว.จะหมดอายุก่อนคดีปิด ดังนั้น นาทีนี้ไม่ได้หวังมากนักกับการดำเนินคดี แต่เป็นโอกาสทำให้มีพื้นที่คุยเรื่องนี้ ทำให้ประชาชนสนใจว่า มันเกิดกระบวนการที่ไม่ดีขนาดนี้ได้อย่างไร

“ที่สำคัญ กลางปีนี้ กกต.ชุดนี้จะหมดอายุ และจะมีการเลือกใหม่โดย สว.ชุดนี้ แล้วถามว่า สว.จะเลือกคนที่จะมาฟันเขาหรือเปล่า ดังนั้น กกต.ชุดนี้ควรฟันก่อนหมดอายุ ถ้าไปเอาชุดใหม่เข้ามา ไม่มีความหวังเลย ระบบนี้ทำให้เห็นปัญหาโครงสร้างอำนาจว่า ที่มาของ สว. แบบนี้ที่ให้ กกต.มีอำนาจตรวจสอบ สว. แต่ สว. เป็นคนเลือก กกต. มันผิดฝาผิดตัวไปหมด” คุณยิ่งชีพกล่าว

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ