ออสเตรเลีย ถอนวีซ่า “โนวัค ยอโควิช” เหตุไม่ฉีดวัคซีนโควิด นายกฯยันกฎต้องเป็นกฎ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

กลายเป็นประเด็นใหญ่และข้อถกเถียงอย่างกว้างขวาง หลังออสเตรเลีย ตัดสินใจเพิกถอนวีซ่าของ “โนวัค ยอโควิช” นักเทนนิสมือหนึ่งของโลก ที่เดินทางมาเข้าแข่งขันเทนนิสรายการออสเตรเลียนโอเพ่น ซึ่งถือเป็นแมตช์ที่สำคัญอีกแมตช์ในชีวิต เพราะถ้าชนะในรายการนี้ เขาจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแกรนด์สแลมที่ 21 ทำลายสถิตินักเทนนิสทุกคนในโลก เหตุผลที่ออสเตรเลียเพิกถอนวีซ่าก็เนื่องจากนักเทนนิสรายนี้ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด

ตัวอย่างจาก รพ.สหรัฐฯ “โอมิครอน” สร้างภาระไม่ต่างจาก “เดลตา”

อนามัยโลก ห่วง “โอมิครอน” ติดเชื้อพุ่งทั่วโลก หวั่นกลายพันธุ์ใหม่

การประกาศเพิกถอนวีซ่าเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลออสเตรเลียเจอกับข้อวิพากษณ์ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกวีซ่ากับยอโควิช โดยระบุว่าเป็นกรณียกเว้น ซึ่งเมื่อถูกเพิกถอนวีซ่า ยอโควิชจะต้องเดินทางกลับเซอร์เบียภายใน 48 ชั่วโมง แต่ล่าสุดมีรายงานว่า เขาจะอยู่ที่ออสเตรเลียต่อไปจนถึงวันจันทร์หน้าเป็นอย่างน้อย เพื่อเตรียมเอกสารยื่นอุทธรณ์ขอเข้าประเทศ


ทั้งนี้นักเทนนิสมือวางอันกับหนึ่งของโลกชาวเซอร์เบีย เพิ่งจะบินมาถึงออสเตรเลียเมื่อคืนวันที่ 5 มกราคม เวลาประมาณ 11.30 น ตามเวลาท้องถิ่น

หลังจากใช้เวลาเดินทางกว่า 14 ชั่วโมง มาจากดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรต แต่พอมาถึงแล้วกลับติดอยู่ในด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินเมลเบิร์นอยู่นานหลายชั่วโมง เพราะวีซ่าเข้าประเทศของเขาถูกเพิกถอน รายงานระบุว่า เขาไม่มีคุณสมบัติในการเข้าเมือง เนื่องจากเขาไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการขอวีซ่า ที่จะต้องเข้ารับวัคซีนโควิด-19

 

ย้อนกลับไปวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ยอโควิชได้ประกาศผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของเขาว่า กำลังจะเดินทางไปออสเตรเลียเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรายการแกรนด์สแลม ออสเตรเลีย โอเพ่น ซึ่งเป็นแกรนด์สแลมรายการแรกของปี

ทั้งนี้ตามกฎของการแข่งขันเทนนิสในรายการแกรนด์สแลม ออสเตรเลีย โอเพ่น ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 17 มกราคมนี้ นักกีฬาทุกคน รวมถึงโค้ชและผู้จัดงานต้องได้รับวัคซีนครบสองเข็ม ซึ่งเงื่อนไขนี้บังคับใช้ไม่เว้นแม้แต่เด็กเก็บลูกบอล อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นทางการแพทย์ที่อนุญาตให้เข้าร่วมงานโดยยังไม่ได้รับวัคซีนได้ เช่น บุคคลที่อยู่ระหว่างการผ่าตัด หรือมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยรุนแรงจากวัคซีน

ซึ่งก่อนหน้าที่ออสเตรเลียจะออกมาเพิกถอนวีซ่านั้น มีรายงานข่าวว่า ยอโควิช ได้รับการยกเว้นทางการแพทย์เป็นพิเศษ โดยเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนจาก 26 รายชื่อที่ถูกส่งมาพิจารณา แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ ยอโควิช ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมว่ากำลังเตรียมจะเดินทางไปออสเตรเลีย ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจบนโลกออนไลน์ ล่าสุดในวันนี้ หลังข่าวเพิกถอนวีซ่าปรากฏออกมา

ด้าน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ชี้ว่า กฎต้องเป็นกฎ และกฎนี้บังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่เว้นแม้แต่นักเทนนิสอันดับหนึ่งของโลก เมื่อยอโควิชไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางสาธารณสุข ตัวเขาจึงไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้

อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายยังคงกังขาว่า หน่วยงานของออสเตรเลียอนุญาตให้ยอโควิชเดินทางเข้าประเทศมาได้อย่างไรตั้งแต่แรก

ด้าน เกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย อธิบายว่า การเพิกถอนวีซ่าของยอโควิชมีการพิจารณาอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมาแล้ว

แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่แฟน ๆ ของยอโควิช  เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาปรากฏภาพของแฟนๆ ไปรวมตัวกันที่หน้าโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัว พวกเขาเปิดเพลงเซอร์เบีย และเอาธงชาติเซอร์เบียมาคลุมตัวเต้นรำไปด้วย ส่วนบางคนให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ยุติธรรมอย่างมาก

ด้านฝั่งเซอร์เบียบ้านเกิดก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน เซอร์ดาน ยอโควิช พ่อของโนวัค ยอโควิช ให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุว่า ลูกชายของเขาถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ให้ใครเข้าพบ และมีตำรวจ 2 นายคอยเฝ้าประตูไว้

ส่วนอเล็กซานเดอร์ วูชิช ประธานาธิบดีของเซอร์เบียก็ออกแถลงการณ์ว่า ยอโควิช ตกเป็นเหยื่อของการถูกคุกคาม และยืนยันว่า ชาวเซอร์เบียให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ มีรายงานด้วยว่า ผู้นำเซอร์เบียได้เรียกเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำกรุงเบลเกรดเข้าพบ เรียกร้องให้ปล่อยยอโควิชลงทำการแข่งขันในทันที

ด้านทนายระบุว่า ยอโควิชจะยื่นอุทธรณ์ต่อประเด็นนี้ และตัวเขาคัดค้านการส่งตัวกลับ ส่งผลให้คาดกันว่ายอโควิชอาจกักตัวอยู่ในเมลเบิร์นต่อไปจนถึงวันจันทร์ โดยให้ทนายร่างคำอุทธรณ์ไปด้วย

ด้านราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือวางอันดับต้น ๆ ของโลกอีกคนออกมาแสดงความเห็นต่อข่าวของยอโควิชว่า เขารู้สึกเสียใจที่ยอโควิชถูกยกเลิกวีซ่า แต่อันที่จริงยอโควิชทราบเงื่อนไขในการเข้าประเทศแล้วตั้งแต่เดือนก่อน รวมถึงมองว่า อันที่จริงถ้ายอมฉีดวัคซีนตั้งแต่แรกก็คงไม่มีปัญหา

 

โนวัค ยอโควิช นอกจากชื่อเสียงในฐานะนักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลกแล้ว อีกข่าวที่ตามมาในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็คือ แนวคิดต่อต้านวัคซีนของเขา โดยโนวัค ยอโควิช เป็นนักเทนนิสชาวเซอร์เบีย มือวางอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบัน และเป็นเจ้าของสถิตินักเทนนิสอายุน้อยที่สุดที่สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของรายการเทนนิสระดับแกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 รายการ เขาอายุ 34 ปีแล้ว และการลงแข่งขันแกรน์สแลมที่ออสเตรเลียครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากชนะ เขาจะครองตำแหน่งแชมป์แกรนด์สแลมที่ 21 ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้  ปัจจุบันยอโควิชเป็นแชมป์แกรนด์สแลมที่ 20 เทียบเท่ากับ ราฟาเอล นาดาล และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อีกสองนักเทนนิสมืออันดับต้นๆ  ของโลก นั่นหมายความว่า การถูกปฏิเสธวีซ่าครั้งนี้ปิดโอกาสที่เขาจะสร้างสถิติใหม่ แซงหน้าเฟเดอเรอร์ และ นาดาล

 

ส่วนในประเด็นวัคซีน เขาคือหนึ่งในคนดังระดับโลกที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน ย้อนไปช่วงเดือนเมษายนปี 2020 ยอโควิชเผยแพร่ภาพการพูดคุยของเขากับเพื่อนฝูงผ่านโปรแกรมซูม โดยตัวเขาได้ระบุว่า ไม่เห็นด้วยต่อการบังคับให้ใครฉีดวัคซีน รวมถึงจำกัดการเดินทางของคนๆ นั้น  ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ปีที่ผ่านมา ยอโควิชย้ำอีกว่า ตัวเขายึดมั่นในเสรีภาพส่วนบุคคล และไม่ต้องการนิยามตนเองหรือตอบคำถามว่าตัวเขาเป็นพวกแอนตี้วัคซีนหรือไม่ ความเห็นดังกล่าวออกมาในช่วงที่สมาคมนักเทนนิสอาชีพ หรือ ATP ระบุว่า การที่ผู้เล่นไม่ฉีดวัคซีนอาจส่งผลกระทบได้

ต่อมาปลายเดือนมิถุนายน ยอโควิชก็ออกมาประกาศว่า ตัวเขาติดเชื้อโควิด-19 โดยคาดว่าติดเชื้อจากการร่วมแข่งเทนนิสทัวร์นาเมนต์พิเศษที่เขาจัดขึ้นเองในเซอร์เบียและโครเอเชีย นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ยอโควิชพบปะกับผู้คนมากมายโดยไม่ได้เว้นระยะห่างทางสังคม และเที่ยวที่ไนท์คลับอีกด้วย

ข่าวเพิกถอนวีซ่านักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลกเกิดขึ้นในช่วงที่ออสเตรเสียกำลังเผชิญกับการระบาดรุนแรง ยอดผู้ติดเชื้อสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

กราฟแสดงยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของออสเตรเลีย ข้อมูลล่าสุดของวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อใหม่ 64,735 ราย สูงที่สุดเท่าที่มีการระบาดมา โดยส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้ออยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์พบมากถึง 34,000 ราย และอีกรัฐที่หนักคือ รัฐวิคตอเรีย ที่ตั้งของนครเมลเบิร์น พบผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้เกือบ 22,000 ราย ส่งผลให้ในวันนี้คาดกันว่า ยอดผู้ติดเชื้อใหม่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีกเป็นอย่างน้อย 72,000 ราย

 

ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ออสเตรเลียสูงสุดเป็นประวัติการณ์

การระบาดที่รุนแรงขึ้นส่งผลให้มีรายงานว่า ขณะนี้หลายโรงพยาบาลกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยที่ต้องการเตียงพยาบาลมากขึ้น เช่น ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่จำนวนผู้ป่วยต้องการเตียงพยาบาลเพิ่มขึ้นถึง 1,300 คนภายในวันเดียว

ขณะเดียวกันในหลายภาคส่วนก็เริ่มมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรทำงาน ด้านประชาชนเองมีเสียงวิจารณ์ว่า ชุดตรวจโควิดหาได้ยากขึ้น และมีราคาแพงขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้จะมีผู้ติดเชื้อมาก แต่จำนวนผู้เสียชีวิตกลับมีน้อย โดยตัวอย่างของวันที่ 5 มกราคมที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด จำนวนผู้เสียชีวิตในวันนั้นมีเพียง 19 คนเท่านั้น  ปัจจัยมาจากการที่ประชากรส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนแล้ว ปัจจุบันสัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีนหนึ่งโดสแล้วคิดเป็นร้อยละ 94.5 ส่วนอัตราฉีดครบโดสอยู่ที่ร้อยละ 91.4

อย่างไรก็ตามเข็มบูสเตอร์ยังฉีดได้น้อย โดยปัจจุบันฉีดไปเพียงร้อยละ 14.3 เท่านั้น หรือราว 3 ล้านคน จากประชากร 25 ล้านคน  ซึ่งในวันนี้ ระหว่างแถลงข่าวการเพิกถอนวีซ่าของ โนวัค ยอโควิช นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสเองก็ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการบูสเตอร์โดส ที่ยอดการฉีดเมื่อวานนี้สูงกว่าการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มที่สองเสียอีก

 

 

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ