วันนี้ (15 มี.ค.) เยฟกินี โทมิคิน (Evgeny Tomikhin) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยได้แถลงต่อสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน
โดยสถานทูตระยุว่า วันนี้เน้นเปิดให้สื่อในประเทศไทยเข้าร่วมมากกว่าจะเป็นสื่อจากต่างประเทศ เนื่องจากสถานที่มีพื้นที่จำกัด โดยโทมิคินบอกว่า การแถลงในวันนี้เป็นการเปิดกว้างจากฝั่งรัสเซียแล้ว
ยูเครนขยายเวลาประกาศใช้กฎอัยการศึก หลังรัสเซียโจมตีหนักหลายเมือง
พนักงานสถานีโทรทัศน์รัสเซีย ประท้วงต่อต้านสงครามกลางรายการสด
รอบกรุงเคียฟถูกโจมตีหนักหน่วง หลังกองทัพรัสเซียล้อมทุกด้าน แต่ยังทะลวงเข้าเมืองไม่ได้
ขอสื่อไทยเข้าใจสาเหตุที่รัสเซียต้องปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน
โทมิคินบอกว่า สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิดขึ้นใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขอให้เข้าใจว่า นี่เป็นเรื่องที่ดำเนินมาหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งสหภาพโซเวียตยังอยู่
“นักการเมืองตะวันตกให้สัญญาว่า จะไม่ขยายขอบเขตมายังกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต แต่สัญญานั้นก็อย่างที่เห็นในปัจจุบันแล้วว่า เป็นคำโกหก เพราะนาโตยังขยายอิทธิพลมาอยู่” โทมิคินกล่าว โดยเสริมว่านี่เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของรัสเซียอย่างยิ่ง
เขาบอกว่า รัสเซียพยายามพูดคุยเรียกร้องความมั่นคงความปลอดภัยของตัวเองมาโดยตลอด ล่าสุดคือเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว รัสเซียก็ได้ยื่นเรื่องต่อนาโตและสหรัฐฯ ให้การันตีความปลอดภัยและมั่นคงของรัสเซีย แต่ไม่เป็นผล
“ถ้ามีคนตีหัวคุณ 1 ครั้ง คุณจะทำอย่างไร ถ้ามีคนตีหัวคุณต่อเนื่อง 1-2 ชั่วโมง คุณจะทำอย่างไร แล้วถ้าเขาตีคุณมา 8 ปี หรือ 30 ปี ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณจะอดทนได้นานแค่ไหน ... ดังนั้นเราทนการยั่วยุจากชาติตะวันตกไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” โทมิคินกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นของภูมิภาคดอนบาส หรือยูเครนตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ของโดเนตสค์และลูฮันสค์ ซึ่งถูกกองทัพยูเครนโจมตีมาตลอด 8 ปี มีชาวรัสเซียอยู่ 800,000 คนในพื้นที่ดังกล่าว
"อีลอน มัสก์" ท้าดวลตัวต่อตัวกับ "ปูติน" เดิมพันยูเครน
เขาเสริมว่า “เราไม่มีทางเลือก เราต้องการยุติสงครามที่ยูเครนเริ่มต้นเมื่อ 8 ปีก่อน ... ฐานทัพทางทหารของสหรัฐฯ ทั่วโลกมีมากกว่าสถานทูตเสียอีก เราไม่ใช่คนที่เริ่มความขัดแย้ง เราพยายามจะจบมันต่างหาก”
ชื่นชมท่าทีรัฐบาลไทยในสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
เมื่อถามถึงเรื่องท่าทีที่พยายามเป็นกลางของไทย โทมิคินตอบว่า โดยปกติ ไม่มีนโยบายยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ ดังนั้นรัสเซียเคารพทุกการตัดสินใจของประเทศนั้น ๆ
“เราชื่นชมความเป็นกลางของไทย เรายินดีที่สหายไทยเป็นหนึ่งในผู้ที่พร้อมจะรับฟังเรา เราเข้าใจจุดยืนและท่าทีของไทย แม้จะมีแรงกดดันมหาศาลจากชาติตะวันตกก็ตาม” โทมิคินกล่าว โดยไม่กี่วันก่อนหน้านี้ มีทูตจากชาติยุโรป 25 ประเทศออกมากดดันรัฐบาลไทย
รัสเซียยังชื่นชมประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ที่มอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครน โดยระบุว่า ทางรัสเซียเองก็ส่งไปให้ชาวยูเครนทุกวันเช่นกัน ทั้งอาหารและยา
รวมถึงยังขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ของไทย ที่อำนวยความสะดวกให้ชาวรัสเซียที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทยหรือไม่มีเงินใช้ จากสถานการณ์และมาตรการคว่ำบาตรของต่างประเทศ
ทั้งนี้ ยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ที่คอยดูแลความเรียบร้อยให้สถานทูตของรัสเซีย ซึ่งมีผู้มาประท้วงต่อต้านความรุนแรงทุกวันในช่วงที่ผ่านมา
โทมิคินยืนยันว่า ความสัมพันธ์ 125 ปีของไทยและรัสเซียยังดีอยู่ และไม่มีแผนขยับไทยไปอยู่ในกลุ่ม “ประเทศที่ไม่เป็นมิตร”
ตั้งคำถาม ทำไมเรื่องที่สหรัฐฯ-ยูเครนทำ ไม่มีใครประณามบ้าง
ในการแถลงข่าว นอกจากจะตอบคำถามสื่อมวลชนแล้ว โทมิคินยังได้ตั้งคำถามกลับถึงความอยุติธรรมที่เคยเกิดขึ้นด้วย
“ทำไม 8 ปีที่ผ่านมา ไม่มีคนพูดถึงโศกนาฏกรรมในดอนบาสเลย ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คนในดอนบาส ในจำนวนนี้เป็นเด็กถึง 152 คน” โทมิคินบอก
นอกจากนี้ โทมิคินยังตั้งำถามถึงสหรัฐฯ และยูเครน ในเรื่องของโครงการวิจัยอาวุธชีวภาพในยูเครนด้วย “ตัวอย่างเช่น โปรเจกต์ UP-4 ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการคือการแพร่เชื้อที่เป็นอันตรายผ่านนกอพยพ หรือห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ สนับสนุน มีเพื่อการใดกันแน่ ต้องตอบให้ได้”
โทมิคินยืนยันว่า เป้าหมายรัสเซียมีแค่โครงสร้างทางทหาร ไม่คิดโจมตีพลเรือน แต่ทุกสงครามมีความสูญเสีย “เป้าหมายหลักของเราคือทำให้ยูเครนปลอดทหาร และขจัดความเป็นนาซีออกไปจากยูเครน”
เมื่อมีคำถามว่า สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนจะขยายไปเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ โทมิคินกล่าวว่า “ไม่มีใครอยากเห็นสงครามโลก เราอยากจบให้เร็วที่สุด สงครามนี้ดำเนินมายาวนานตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว เราจะใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อยุติสงครามนี้”
เขาเสริมว่า หนึ่งในการจะหยุดยั้งความรุนแรง คืออย่าเพิ่มความขัดแย้ง แต่ทุกวันนี้ยังมีอาวุธจากชาติตะวันตกส่งไปให้ยูเครนตลอดเวลา
โทมิคินบอกว่า รัสเซียพยายามเลี่ยงการสูญเสีย แต่ทำไมจึงไม่มีเคยมีคนถามบ้างว่า สหรัฐฯ เคยทำอะไรไว้บ้างในอัฟกานิสถาน ซีเรีย อิรัก
ในระหว่างที่มีการแถลงข่าว ที่หน้าสถานทูตฯ ก็มีชาวยูเครน ชาวรัสเซีย และชาวต่างชาติเชื้อชาติอื่น ๆ รวมกลุ่มประท้วงต่อต้านการบุกยูเครน
ตำรวจสหรัฐฯ เร่งล่าตัวมือยิงคนไร้บ้าน 5 คน ขณะหลับ
อลินา หญิงชาวยูเครน บอกว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครนเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ขณะนี้น้องสาวและพ่อแม่ของเธอยังคงอยู่ในยูเครน และคอยให้ความช่วยเหลือกองทัพยูเครนโดยไม่คิดจะหลบหนีไปไหน และฝากขอบคุณพี่น้องชาวยูเครน รวมถึงคนชาติอื่น ๆ ที่ร่วมออกมาต่อต้านการกระทำของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และชื่นชมในความกล้าของพวกเขา
ด้าน อลัน ชายชาวสกอตแลนด์ เป็นหนึ่งในชาวต่างชาติเชื้อชาติอื่น ที่ร่วมประท้วงต่อต้านความรุนแรงจากรัสเซีย โดยเขาบอกว่า เป็นกำลังใจให้กับชาวยูเครน และส่งสารถึงปธน.ปูตินด้วยว่า “หากคุณเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่จริง อย่าเอาแต่หลบอยู่หลังกองทัพของคุณ มาเจอกันต่อหน้า ตัวต่อตัว”
สำหรับสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนนั้น รัสเซียยังคงโจมตีหนักในหลายเมือง ขณะที่การเจรจารอบใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น