ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ลงนามในพระราชกฤษฎีกาขยายขนาดกองทัพ เพิ่มจำนวนทหารฝ่ายสู้รบอีก 137,000 นาย ซึ่งจะทำให้กองทัพรัสเซียมีทหารฝ่ายสู่รบเพิ่มจาก 1.01 ล้านนาย เป็น 1.15 ล้านนาย ซึ่งเมื่อรวมกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ไม่ใช่ฝ่ายสู้รบ กองทัพรัสเซียจะมีบุคลากรโดยรวมทั้งสิ้น 2.04 ล้านนาย
การลงนามนี้เกิดขึ้นในขณะที่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนก้าวเข้าสู่เดือนที่ 7 และเหมือนจะเป็นหนึ่งในข้อบ่งชี้ว่า นี่คือการเสริมกำลังทหารที่สูญเสียไปอย่างหนักในยูเครน
รัสเซียเล็งตัดไฟโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน เสี่ยงทำเครื่องปฏิกรณ์ระเบิด
ครบรอบ 6 เดือนสงครามรัสเซีย-ยูเครน คาดเดาไม่ได้ลงเอยอย่างไร
ขาดคน? บางเมืองของรัสเซียยังคงรับสมัครทหารเพิ่มไปรบในยูเครน
คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2023 แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า กองทัพรัสเซียจะเพิ่มจำนวนทหารฝ่ายสู้รบโดยการเกณฑ์ทหารมากขึ้น หรือจะเปิดรับสมัครทหารอาสามากขึ้น หรือจะใช้ทั้งสองรูปแบบร่วมกัน
นี่จะเป็นการเพิ่มกำลังพลในกองทัพรัสเซียครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยในปี 2017 รัสเซียเพิ่มกำลังทหารเพียง 13,698 นายและเจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช่ฝ่ายสู้รบอีก 5,357 นาย เท่ากับว่า การเพิ่มกำลังทหารครั้งนี้ของรัสเซียมากกว่าครั้งล่าสุดถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ตลอดมารัสเซียแทบจะไม่เปิดเผยจำนวนทหารที่บาดเจ็บล้มตายในยูเครนเลยว่ามีจำนวนเท่าใด แต่ในเดือน พ.ค. กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรประเมินว่า รัสเซียน่าจะสูญเสียกำลังรบภาคพื้นดินไปมากถึง 1 ใน 3
ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้ว วิลเลียม เบิร์นส ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) คาดการณ์ว่า ตัวเลขทหารรัสเซียที่เสียชีวิตในยูเครนน่าจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 นาย
ก่อนหน้าที่จะมีการลงนามในพระราชกฤษฎีกานี้ มีการรายงานข่าวอยู่เนือง ๆ ว่า รัสเซียกำลังและยังคงพยายามในการรับสมัครทหารเพิ่ม โดยยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวนมาก สิทธิพิเศษต่าง ๆ หรือแลกกับการลดโทษหากเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำ
ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วรัสเซียได้เริ่มจัดตั้งกองพันอาสาสมัคร โดยเสนอสัญญาระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนดีแก่ประชากรชายที่มีอายุระหว่าง 18-60 ปี หน่วยข่าวกรองของตะวันตกยังระบุด้วยว่า รัสเซียได้ว่างจ้างบริษัททหารรับจ้างเอกชนเพื่อเสริมกำลังในแนวหน้า เพราะรัสเซียกำลังเผชิญกับการขาดแคลนกำลังพล
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP