นักวิทยาศาสตร์พบมัมมี่ลูกเสือเขี้ยวดาบในชั้นดินเยือกแข็งหรือเพอร์มาฟรอสต์ (permafrost) ใกล้กับแม่น้ำบาเดียรีคา (Badyarikha) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตยาคูเทียของรัสเซีย เมื่อปี 2020 โดยนักวิทยาศาสตร์เพิ่งเผยแพร่รายงานการค้นพบและศึกษาในวารสาร Scientific Reports เมื่อวันที่ 14 พ.ย.
อเล็กซี โลปาติน หัวหน้าทีมวิจัย ระบุว่า การตรวจหาอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสีชี้ว่า ลูกเสือเขี้ยวดาบตัวนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 35,000 ปี
โดยเชื่อว่ามันเคยมีชีวิตอยู่ในช่วงท้ายของยุคไพลสโตซีน (Pleistocene) ซึ่งอยู่ในช่วงประมาณ 2.6 ล้านปี ถึง 11,700 ปีก่อน โดยคาดว่าลูกเสียเขี้ยวดาบตัวนี้ตายตอนที่อายุประมาณ 3 สัปดาห์
วงในเผย “ปูติน” พร้อมคุย “ทรัมป์” ยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ซากของลูกเสือมีแค่ครึ่งตัวบนโดยที่ยังคงมีขนห่อหุ้มหนาและเนื้อที่กลายสภาพเป็นมัมมี่ ขณะที่ใบหน้า ขาหน้า และลำตัวอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์
ขนของลูกเสือซึ่งเป็นสีน้ำตาลเข้มสั้นแต่หนามาก โดยมีความยาวประมาณ 20 ถึง 30 มิลลิเมตร และยังมีความนุ่มอย่างน่าประหลาดใจ
โลปาตินระบุว่ามัมมี่นี้เป็นหลักฐานชิ้นแรกจากเอเชียของเสือเขี้ยวดาบ หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า โฮโมธีเรียม ลาติเดนส์ (Homotherium latidens) แม้ว่าก่อนหน้านี้จะพบฟอสซิลกระดูกในเนเธอร์แลนด์และเขตยูคอนในแคนาดา
ภูมิภาคยาคูเทียในแถบไซบีเรียของรัสเซียเป็นที่รู้จักว่ามีการค้นพบมัมมี่ยุคน้ำแข็งของสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น แรดขนยาวและแมมมอธขนยาว แต่สำหรับมัมมี่สัตว์ตระกูลเสือนั้นถือว่าหายากมากๆ
โลปาตินกล่าวว่า ก่อนการค้นพบนี้ เคยมีมัมมี่สัตว์ตระกูลเสือที่รู้จักเพียงสองตัว ซึ่งทั้งสองตัวเป็นลูกสิงโตถ้ำ (Panthera spelaea) จากลุ่มน้ำอูยันดินา (Uyandina) ในยาคูเทีย
การสกัดดีเอ็นเอจากมัมมี่จะเป็นขั้นตอนสำคัญถัดไปในการทำความเข้าใจสัตว์ชนิดนี้ รวมถึงจะมีการตรวจสอบโครงกระดูก กล้ามเนื้อ และขนของมัมมี่อย่างละเอียดเพิ่มเติมต่อไป
อ่านงานวิจัยฉบับเต็ม ที่นี่