ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความบน Truth Social ระบุว่า อิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้ลงนามเห็นชอบในระยะที่ 1 ของแผนสันติภาพที่เสนอโดยตนเองแล้ว
ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุด้วยว่า นั่นก็หมายความว่า ตัวประกันทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวในเร็ว ๆ นี้ และอิสราเอลจะถอนกำลังทหารกลับไปยังเส้นที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่สันติภาพที่เข้มแข็ง มั่นคงและยั่งยืน ทุกฝ่าย จะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม
ทรัมป์บอกว่า นี่เป็นวันอันยิ่งใหญ่สำหรับโลกอาหรับและมุสลิม อิสราเอลและประเทศรอบข้างทั้งหมด ตลอดจนสหรัฐฯ พร้อมขอบคุณตัวกลางจากกาตาร์ อียิปต์ และตุรกี ที่ร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อทำให้เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้สำเร็จลุล่วงลงได้ ขอพระเจ้าอวยพรแด่ผู้สร้างสันติ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณาว่าจะเดินทางไปยังตะวันออกลางในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อติดตามการเจรจาทางอ้อมระหว่างคณะผู้แทนจากอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งจัดขึ้นที่อียิปต์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ในการผลักดันให้เกิดการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา และการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มฮามาส
การเจรจานี้เกิดขึ้นราว 2 ปีกับ 2 วันหลังจากอิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้การโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปี 2023 จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนและอีก 251 คนถูกจับเป็นตัวประกัน
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาส รายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์ชีวิตจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลแล้วอย่างน้อย 67,183 คน นับตั้งแต่นั้นมา ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญกับการอพยพซ้ำซ้อน สิ่งปลูกสร้างกว่า 90% ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย ยังไม่รวมถึง วิกฤตด้านมนุษยธรรมรุนแรงในพื้นที่