คะแนนนิยม “ทรัมป์” ร่วงทุบสถิติ คนไม่พอใจนโยบายเศรษฐกิจ-ต่างประเทศ

เผยแพร่ 5 พ.ย. 2568 ,11:03น.

ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันล่าสุดพบว่า “ทรัมป์” มีคะแนนนิยมลดลงต่ำสุดทุบสถิติ เกินครึ่งไม่พอใจนโยบายเศรษฐกิจและการต่างประเทศ

สำนักข่าว CNN และบริษัทวิจัยการตลาด SSRS ทำการสำรวจสอบถามความคิดเห็นชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่จำนวน 1,245 คน ระหว่างวันที่ 27-30 ต.ค. เกี่ยวกับคะแนนความนิยมของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยพบว่า คะแนนความไม่พอใจต่อทรัมป์อยู่ที่ระดับ 63 เปอร์เซ็นต์

โดยผู้ถูกสำรวจ ได้รับคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาพรวมของสหรัฐฯ ซึ่ง 68 เปอร์เซ็นต์ตอบว่าแย่มาก ที่เหลือ 32 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าดีมาก

คะแนนนิยม “ทรัมป์” ร่วงทุบสถิติ คนไม่พอใจนโยบายเศรษฐกิจ-ต่างประเทศ — โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ในด้านเศรษฐกิจ มีเพียง 27 เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อว่านโยบายของ ประธานาธิบดี ทรัมป์จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นได้ แต่มีถึง 61 เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อว่านโยบายของผู้นำสหรัฐฯ ทำให้เศรษฐกิจแย่ลง และ 12 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่านโยบายของประธานาธิบดี ทรัมป์ ไม่ส่งผลดีหรือร้ายแต่ประการใด

ในด้านนโยบายต่างประเทศ ผู้ตอบแบบสอบถาม 56 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่าการตัดสินใจของประธานาธิบดีทำให้สถานภาพของสหรัฐฯ บนเวทีโลกย่ำแย่ลง ขณะที่ 32 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่าการตัดสินใจของประธานาธิบดี ทรัมป์ ทำให้ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในสายตาชาวโลกดูดีขึ้น โดยทำเนียบขาวอ้างว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ ประสบความสำเร็จในการยุติสงครามถึง 8 สมรภูมิ ตลอดระยะเวลา 8 เดือนของการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2

คอนเทนต์สำหรับคุณ By Blue Dot

เนื้อหาคัดสรรคุณภาพ

นอกจากนี้ 61 เปอร์เซ็นต์ยังเชื่อว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ ใช้อำนาจในฐานะผู้นำสหรัฐฯ มากเกินขอบเขต สวนทางกับ 31 เปอร์เซ็นต์ที่มองว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ ใช้อำนาจได้เหมาะสมแล้ว

การสำรวจนี้ยังพบว่าหากมีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาวันนี้ 41 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าจะลงคะแนนให้กับขั้วตรงข้ามทางการเมืองของประธานาธิบดี ทรัมป์ ส่วน 21 เปอร์เซ็นต์ยืนยันว่าจะโหวตสนับสนุนผู้นำสหรัฐฯ และ มีถึง 38 เปอร์เซ็นต์ที่ระบุว่าจะไม่ใช้การลงคะแนนเสียงเพื่อแสดงความรู้สึกต่อประธานาธิบดี ทรัมป์

สำหรับผลสำรวจนี้จัดทำขึ้นในช่วงเวลาที่หน่วยงานรัฐบาลกลางเข้าสู่สภาวะชัตดาวน์ ซึ่งอาจกินเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 47 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าเศรษฐกิจและค่าครองชีพคือปัญหาสำคัญที่สุดของประเทศ