ทางสองแพร่ง “การบินไทย”

“การบินไทย รักคุณเท่าฟ้า” สายการบินแห่งชาติของไทย ที่ฝ่ามรสุมมาแล้วหลายลูก แต่คงไม่มีครั้งไหนจะหนักหนาสาหัสเท่าครั้งนี้ จากงบการเงินปี 2562 การบินไทย มีรายได้รวมกว่า 189,954  ล้านบาท แต่มีผลขาดทุนสุทธิถึง  12,042 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนสะสมเพิ่มเป็น 19,383 ล้านบาท

โดยค่าใช้จ่ายที่มากที่สุด คือ ค่าน้ำมันเครื่องบินจำนวน 54,675 ล้านบาท คิดเป็น 27.3% รองลงมาเป็นค่าใช้จ่ายพนักงานการบินไทย ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายบุคลากร ผลประโยชน์พนักงาน ค่าตอบแทนผู้บริหารและกรรมการ 34,886 ล้านบาท คิดเป็น 17.4%  จากพนักงานทั้งหมด 21,367 คนเป็นนักบิน 1,432 คน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 5,749 คน และฝ่ายช่าง 3,461 คน ที่เหลือเป็นหน่วยงานธุรการ, สายการพาณิชย์ และอื่น ๆ

นอกจากนี้ การบินไทย ยังมีหนี้สินรวมกว่า 244,000 ล้านบาท เป็นหนี้ที่ต้องชำระภายใน 1 ปี รวมกว่า 21,700 ล้านบาท ขณะที่กระแสเงินสดมีเพียง 21,600 ล้านบาทเท่านั้น ปัญหาดังกล่าวสะท้อนถึงสภาพคล่องธุรกิจที่ตึงตัว  ยิ่งมาเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ก็ยิ่งซ้ำเติมปัญหา การบินไทย

สำหรับทางออกของ การบินไทย ขณะนี้ทางเลือกมีไม่มากนัก ทางออกแรก รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ต้องเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ 54,000 ล้านบาท แลกกับการ เดินหน้าต่อไปในทางธุรกิจ แต่อาจยืนอยู่ได้ไม่นาน เพราะเงินกู้ก้อนนี้ ส่วนใหญ่จะต้องนำไปจ่ายเจ้าหนี้ และต้องทำรายได้จากธุรกิจเดือนละ 13,000 ล้านบาท ทางออกที่ 2 เข้าไปสู่โหมดของการร้องต่อศาลล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ  ซึ่งทางออกในครั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ยืนยันว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤษภาคมนี้ 

สหภาพบินไทย ถอยแล้ว ยอมนายกฯทุกอย่าง เชื่อนำผ่านวิกฤตได้

“อุตตม” ชี้ ฟื้นฟูการบินไทย ไม่จำเป็นต้องยื่นล้มละลาย

อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายก็สนับสนุนให้ การบินไทย เข้าสู่กระบวนการล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร และ อดีตคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ภายใต้กระบวนการล้มละลาย เพราะสายการบินใหญ่ระดับโลก ก็เคยผ่านวิกฤตแบบนี้จนต้องฟื้นฟูกิจการก่อน เชื่อว่าการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ จะทำให้ การบินไทย รีสตาร์ทธุรกิจได้ใหม่อีกครั้ง แต่ที่สำคัญการบินไทย ต้องเปลี่ยนคณะกรรมการ ให้มืออาชีพเข้ามาทำหน้าที่ในการฟื้นฟูกิจการด้วย

 ขณะที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หาก การบินไทย ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการจะส่งผลดี คือ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ พักชำระหนี้ได้ เพราะเจ้าหนี้ไม่สามารถบังคับให้การบินไทยชำระหนี้ในช่วงเวลาฟื้นฟูกิจการได้ การบินไทย จึงมีเวลาที่จะฟื้นฟูกิจการได้ เช่น ลดฝูงบิน ปรับเปลี่ยนเส้นทาง ปรับเปลี่ยนวิธีจำหน่ายตั๋ว ลดจำนวนพนักงาน ลดเงินเดือนและสวัสดิการ และที่สำคัญสามารถเจรจาให้เจ้าหนี้ลดหนี้ลง ยืดระยะเวลาชำระหนี้ และแปลงหนี้เป็นทุนได้ ขณะที่ข้อเสีย ก็มีเรื่องของเวลา รวมถึงความน่าเชื่อถือของตลาดตราสารหนี้  แต่ทางออก การบินไทย ครั้งนี้ จะไปทางไหน ก็คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล