วันนี้ (19 มี.ค.61) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ "ก้าวใหม่เศรษฐกิจไทย รับความท้าทายอย่างมั่นคง" ว่า เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน จากการที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ในขณะที่เอเชียเองก็กลายมาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของโลก นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจที่จะทำการค้า และลงทุนกับเอเชีย โดยเฉพาะ อาเซียน และ CLMVT มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ สถานการณ์ภายในประเทศไทยเองสงบเรียบร้อย การเมืองมีเสถียรภาพ ทำให้สามารถปฏิรูป และพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ดีขึ้น และซึ่งช่วยให้ไทยพ้นจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และกลับมาเติบโตได้ดี เห็นได้จากการส่งออก การท่องเที่ยว หรือแม้แต่ยอดการขอรับคำส่งเสริมการลงทุนที่ขยายตัวอย่างมาก และคาดว่าในปีนี้มูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุน จะสูงถึง 7 แสนล้านบาท เช่นเดียวกับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ก็มีมูลค่าสูงถึง 296,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
โดยสิ่งที่รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ ให้เกิดขึ้นต่อเนื่องในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ได้แก่ ยุทธศาสตร์โครงการลงทุนขนาดใหญ่ หรือ เมกะโปรเจค ที่จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางด้านกายภาพของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบราง โครงการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่จะพัฒนาระบบการเชื่อมต่อโลจิสติกส์ และยุทธศาสตร์โครงการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล หรือ 4.0
ทั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวทีนี้ในการเชิญชวนนักลงทุนให้มาร่วมเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ เพื่อช่วยกันพลิกโฉมใหม่ของประเทศไทย ให้เศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็ง และเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อดันไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางความเจริญในอาเซียน