เจ้าของเครื่อง เปิดเผยลักษณะการทำของเครื่องนี้ว่า เป็นกล้องที่ไว้สแกนโครงสร้างกำแพง อาคาร และผนังถ้ำ ด้วยการยิงเลเซอร์ออกไปรอบตัว แปรออกมาเป็นแบบโครงสร้าง โดยรัศมีของเลเซอร์จะอยู่ที่ประมาณ 150-200 เมตร ถ้าจะให้ทราบถึงโครงสร้างของถ้ำทั้งหมด และจะต้องวางกล้องถ่ายเป็นระยะๆ โดยการถ่ายและสแกนครั้งหนึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที ภาพที่เห็นจะออกมาเป็นโครงสร้าง 3 มิติ ซึ่งจะทำให้ทราบลักษณะภายในถ้ำทั้งหมด แม้ในจุดที่สายตาไม่สามารถมองเห็นได้
กล้องสแกนนี้ แม้จะเป็นกล้องนำเข้าจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ราคาประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่ง “RSK Rescue” มีอยู่เครื่องเดียว และยังไม่เคยใช้ในประเทศไทย แต่เจ้าของเครื่องบอกว่าอยากให้ลองนำไปใช้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการค้นหาเด็กและโค้ชฟุตบอล รวม 13 ชีวิต ขณะที่ตอนนี้มีเรื่องกังวลยิ่งกว่า คือน้ำที่เอ่อท่วมจนถึงปากถ้ำหลวง จนไม่สามารถนำกล้องไปติดตั้งและทำงานได้ อีกความหวังหนึ่งคือเมื่อเจ้าหน้าที่เรียนรู้วิธีใช้แล้ว หวังว่าจะนำขึ้นไปสมทบกับทีมสำรวจปล่องถ้ำ เพื่อช่วยสแกนโครงสร้างของปล่องและโพรงถ้ำได้
อ่านข่าวเพิ่ม
"ผบ.สส.-ผบ.ทอ.-ผบ.ตร." ลงพื้นที่ถ้ำหลวงค้นหา 13 ชีวิตบ่ายนี้
เปิดข้อมูล “กล้องสแกนถ้ำ” ฉายภาพ 3มิติ ร่วมค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง
นายกวิศวกรรมสถานฯ ชี้ ถ้าเจาะถ้ำหลวงใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน
กรมทรัพยากรธรณี แจงแนวทางหากเจาะ “ถ้ำหลวง”