วันที่ 27 มี.ค. 58 นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว "PPTV" ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลและ คสช. ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาวิเคราะห์ความเหมาะสมของการใช้กฎอัยการศึกมาตลอด รวมถึงได้ปรับการใช้มาเป็นระยะ กล่าวคือ 1.ใช้กฎอัยการศึกเพียงบางมาตราเท่าที่จำเป็น 2.เปิดพื้นที่ให้กลุ่มต่าง ๆ ได้แสดงความคิดเห็นมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีเบื้องหลังทางการเมือง และ 3.มาตรการเข้มของกฎอัยการศึกจะใช้กับกลุ่มที่นิยมความรุนแรง หรือกลุ่มติดอาวุธเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จด้วยดี
นายปณิธานกล่าวต่อว่า แต่สังคมยังเรียกร้องให้ผ่อนคลายการใช้กฎหมายพิเศษลงอีก รัฐบาลจึงตัดสินใจเตรียมยกเลิกกฎอัยการศึก โดยมีแนวทางนำมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาบังคับใช้แทน เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ในการควบคุมสถานการณ์และเฝ้าระวังเหตุการณ์ความไม่สงบ
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า การกำหนดแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ จะไม่พิจารณาตราเป็นกฎหมายใหม่ หรือส่งร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. แต่จะใช้วิธีการออกเป็นประกาศ คสช. แทน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการซักซ้อมความเข้าใจกับระดับปฏิบัติทุกหน่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาของมาตรา 44 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ระบุไว้ว่า ในกรณีที่หัวหน้า คสช.เห็นเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ การส่งเสริมความสามัคคี และความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย ให้หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของ คสช. มีอำนาจสั่งการ ระงับยับยั้ง หรือกระทำการใด ๆ ได้
ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งหรือการกระทำหรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้ และเป็นที่สุด เมื่อได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว.
ภาพประกอบ : www.rsutv.tv