“ทิดสมปอง”สวมเสื้อเปิดตัวแบรนด์ “แม่ปอง”
ส.ป.ก. ลุยสอบที่ดิน 300 ไร่ "ทิดสมปอง" ลั่น สัปดาห์หน้ารู้เรื่อง
เจ๊ติ๋มไม่หยุด แฉอีก “สมปอง” เจ้าสัวเสนอเงินให้ 16 ล้าน
นายสมปอง นครไธสง อดีตพระลูกวัดสร้อยทอง ออกมาชี้แจงกับสื่อครั้งแรก หลังเกิดดราม่าระหว่าง เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล โดยแจกแจงทุกประเด็น ทั้งเรื่องที่ดิน และ เรื่องส่วนตัว
เริ่มต้นด้วย นายสมปอง ยกมือไหว้ขอโทษเจ๊ติ๋ม ที่ออกจากบ้านมาโดยไม่ลา นายสมปอง อ้างว่า น้อยใจที่ถูกเตือนเรื่องการครบเพื่อนบ่อย พร้อมยอมรับว่า 1 ในเพื่อนที่ถูกห้ามคบ คือ เพื่อนที่ชื่อชมพู่ ซึ่งเป็นแม่ค้าออนไลน์ นายสมปอง ยืนยันไม่ได้เป็นอะไรกัน เพราะ ชมพู่มีลูกและสามีอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องการคบเพื่อนในวงการธุรกิจสีเทา ยืนยันไม่เป็นความจริง พร้อมย้ำว่า อยากให้ทุกคนเลิกมองเขาเป็นพระเพราะปัจจุบันสึกมา 40 วันแล้ว โดยนายสมปองใช้คำว่า
“เลิกเอาจีวรมาคลุมตัวผมสักที ผมสึกมา 40 วันแล้ว ผมรู้ว่ามันต้องใช้เวลา 2-3 เดือน หลายคนยังเอาจีวรมาคลุมตัวผมไว้ เราลาสิกขาลามาใช้ชีวิตฆราวาสแล้ว” นายสมปองกล่าว
ส่วนเรื่องเงิน 1 ล้านบาท นายสมปอง ยอมรับว่า รับล่วงหน้ามาจริง ตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับลูกชายของเจ๊ติ๋มว่าจะคืนเงินให้ หรือทำงานแทน
ขณะที่เรื่องการดื่มไวน์ นายสมปอง ชี้แจงว่า คนแรกที่สอนให้เขาดื่ม ก็คือ เจ๊ติ๋ม พร้อมยืนยันว่า การขอมีตู้แช่ไวน์ เกิดขึ้นเพราะพูดทีเล่นทีจริง เพราะเจ๊ติ๋มบอกว่าอย่าไปดื่มข้างนอกเห็นมันจะไม่ดี ให้แซวกลับว่าถ้าไม่อยากให้ดื่มข้างนอกให้ซื้อตู้ไวน์ให้เลย ก็จัดให้ตน แต่ตนดื่มน้ำผลไม้
สำหรับเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. 300 ไร่ นายสมปอง ระบุว่า ไม่ได้มีมากขนาดนั้น แต่พูดไปเรื่อย และ การพูดไปเรื่อยได้สร้างบทเรียนให้ตัวเองมาก พร้อมยอมรับว่ามีที่ดินจริง โดยญาติครอบครัว เป็นคนร้องขอให้ซื้อ เลือกแปลงมา ส่วนตนมีหน้าที่นำเงินไปจัดซื้อ ยืนยันว่า ไม่รู้ว่าเป็นที่ดินอะไร หากเป็นที่ดิน ส.ป.ก.จริง พร้อมคืนให้รัฐตามกฎหมาย
ทั้งนี้หากเป็นที่ดินอุทยาน หรือ ที่ดินป่าสงวน หากเข้าข่ายผิดกฎหมาย นายสมปอง มองว่าน่าจะเข้าข่ายความผิดแค่สนับสนุนให้จัดหา ยืนยัน ที่ดินทุกแปลงไม่ได้ซื้อเอง และไม่มีชื่อของตัวเองแน่นอน
ล่าสุด นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ที่ดินของนายสมปอง เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว พบว่า พื้นที่เดิมเป็นเขต ส.ป.ก. แต่สภาพไม่เหมาะกับการทำเกษตรกรรม จึงส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมป่าไม้ โดยจากการตรวจสอบพบว่า ตรวจสอบไป 6 แปลง จาก 11 แปลง เนื้อที่รวม กว่า 200 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิทั้งทั้งหมด 200 ไร่ ส่วนที่เหลือจะตรวจสอบต่อในวันที่ 9 ก.พ. ซึ่งบางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ที่เตรียมการประกาศเป็นพื้นที่จัดสรรที่ทำกิน ตามนโยบาย