คุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ พา “น้องเอ” นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอขุขันธ์ เพื่อให้ติดตามแก๊งมิจฉาชีพที่โทรศัพท์มาข่มขู่
สอบสวน “น้องเอ” เล่าว่าเมื่อวันที่ 7 พ.ย.มีโทรศัพท์เข้ามาหา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กสทช. บอกว่ามีคนเอาสำเนาบัตรประชาชนของ “น้องเอ” ไปเปิดเบอร์โทรศัพท์ แล้วนำไปลงเว็บไซต์เชิญชวนคนเล่นพนันออนไลน์
อ้างเป็นสรรพากรหลอกโหลดแอปฯ เงินหายทั้งบัญชี
หลอกเป็นสรรพากรดูดเงิน 2.26 ล้านเกลี้ยงบัญชี
“น้องเอ” พยายามปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง ปลายสายก็แนะนำให้ไปแจ้งความที่จังหวัดเชียงราย แต่ถ้าไม่สะดวกก็จะโอนสายไปให้ตำรวจหญิง ซึ่ง “น้องเอ” ได้ตอบตกลง
จากนั้น โทรศัพท์ก็ถูกโอนสายต่อไปยังอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเสียงผู้หญิง โดยได้สอบถามข้อมูลของเรื่อง น้องก็ตอบไปตามที่ได้รับแจ้งมาทางโทรศัพท์จากสายแรกที่โทรเข้ามา โดยสุดท้ายผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจที่รับแจ้งความ บอกให้น้องเอากระดาษมาจดรายละเอียดของเรื่อง และที่สำคัญคือน้องจะต้องหาเงินมาจ่ายค่าเสียหายจำนวน 135,500 บาท
ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก เพราะคนร้ายพูดจาหว่านล้อม และรู้ข้อมูลส่วนตัวเกือบทุกอย่าง แต่ไม่มีเงินจะโอนให้ ทำให้เครียด นอนไม่หลับ และหวาดกลัว
ด้านคุณครู บอกว่าสังเกตลูกศิษย์มีท่าทีแปลก ๆ เหมือนร้องไห้ จึงเข้าไปถามเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น จนรู้ว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหลอกลวง จึงพยายามพูดคุยปลอบใจให้นักเรียนสบายใจขึ้น และพามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ คุณครูก็ยังให้ข้อมูลด้วยว่า ที่ผ่านมาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการโทรศัพท์มาข่มขู่เด็กนักเรียนมากขึ้นโดยเชื่อว่าแก๊งมิจฉาชีพน่าจะเอาข้อมูลพวกหมายเลขโทรศัพท์ ชื่อ นามสกุล มาจากเวปไซด์ที่เด็กๆ เข้าไปเล่นเกมส์ จึงขอเตือนเด็กๆ นักเรียน ให้ระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อกลุ่มแก๊งเหล่านี้ หากไม่มั่นใจให้บอกครูหรือผู้ปกครอง ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน.