กรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน 4 ชนิด ในจำนวนนั้นมีทั้งซากตัวเงินตัวทองที่ยังมีชีวิตอยู่ในถุง 32 ตัว ซากตัวเงินตัวทองวางกองอยู่กับพื้นและอยู่ในกะละมัง 59 ซาก และยังพบชาวบ้าน 5 คน ที่มารับจ้างชำแหละ แปรรูป ตัวเงินตัวทอง
สบายใจได้! ไม่ใช่ลูกชิ้น - หนังปลากรอบ ปทส.ยันเนื้อ “ตัวเงินตัวทอง” ส่งร้านอาหารป่า
พ่อค้าแม่ค้าตลาดแสนตุ้ง-คลองใหญ่ ไม่พบใครนำเนื้อตัวเงินตัวทองมาขาย
เบื้องต้น จับกุมนายมนต์ อายุ 73 ปี เจ้าของบ้าน และนายประสิทธิ์ อายุ 67 ปี พ่อค้าที่มารับซื้อตัวเงินตัวทองที่ชำแหละแล้ว เพื่อไปส่งขายที่ จ.ตราด ไว้ดำเนินคดี ตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต” แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยื่นหลักทรัพย์คนละ 1 แสนบาท ก่อนที่ศาลจะให้ประกันตัวออกมา
ล่าสุด วันนี้ 2 มี.ค. 2566 นายมนต์ เจ้าของบ้าน พร้อมคนงานที่ชำแหละเนื้อตัวเงินตัวทอง 5 คน ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.อู่ทอง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นที่โซเชียลนำไปแชร์กันว่ากลุ่มของผู้ต้องหาเปิดโรงงานผลิตลูกชิ้นที่ทำมาจากเนื้อตัวเงินตัวทอง ส่วนหนังก็เอาไปตากแห้งทอดกรอบเหมือนหนังปลาทอดเพื่อส่งขาย ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก แห่แชร์ข้อมูลกันจำนวนมาก
กระทั่งทางตำรวจชุดจับกุม ออกมายืนยันว่าเรื่องที่แชร์กันนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด ทางพ่อค้าที่มารับซื้อรับสารภาพว่าจะนำเนื้อตัวเงินตัวทองไปขายต่อที่ตลาดในจังหวัดตราด และตลาดชายแดนภาคตะวันออก เพื่อนำไปทำอาหารป่าแก่ผู้ชื่นชอบเท่านั้น
นายมนต์ เปิดเผยว่า ตัวเงินตัวทองตนเองไม่ได้ส่งขาย แต่มีพ่อค้ามารับซื้อไปขายต่ออีกทอด ส่วนเขาจะไปขายให้ใคร คงต้องไปถามเขาเอง และยืนยันที่บ้านไม่ได้ทำเป็นโรงงานลูกชิ้นอะไรเลย
นายมนต์ ยังฝากไปถึงผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ รวมถึงประชาชนที่จะเข้าไปนั่งกินตามร้าน ว่าไม่ต้องกังวลว่าจะได้กินลูกชิ้นตัวเงินตัวทอง เพราะมันไม่มีจริง เนื่องจากตัวเงินตัวทองนั้นราคาแพงกว่าปลาเยอะ คงไม่มีใครเอาตัวเงินตัวทองมาทำลูกชิ้นขาย เพราะมันไม่คุ้ม
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
