ทุก ๆ ปี จะมีการจัดงานประกาศรางวัล The World’s 50 Best Restaurants ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นรางวัลออสการ์ของแวดวงอาหาร โดยก่อนจะไปลุ้นรางวัลระดับโลก ได้มีการประกาศรางวัล “Asia’s 50 Best Restaurants Awards” หรือร้านอาหาร 50 แห่งที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2025 ออกมาก่อนในวันที่ 26 มี.ค.
รางวัลนี้ตัดสินจากกลุ่มผู้นำที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมร้านอาหารมากกว่า 300 รายจากทั่วทวีปเอเชีย โดยแต่ละคนได้รับการคัดเลือกจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวงการร้านอาหารในเอเชีย
โดยปีนี้ มีร้านอาหารจากประเทศไทยถึง 9 ร้านที่ติดอยู่ใน 50 อันดับนี้ และหนึ่งในนั้นอยู่ใน “อันดับที่ 1” มาดูกันว่า มีร้านอะไรบ้าง
อันดับ 47 สำรับสำหรับไทย (Samrub Samrub Thai) – กรุงเทพ
หนึ่งในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เน้นการใช้วัตถุดิบที่เกือบถูกลืมเลือนผ่านสูตรอาหารไทยโบราณ เชฟปริญญ์ ผลสุข ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารจนชื่อเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และในระดับท้องถิ่น เขาถือเป็นทูตของอาหารไทย
สำรับสำหรับไทยยังมีครัวแบบเปิดให้ผู้รับประทานอาหารได้ดูขั้นตอนในครัวซึ่งอาหารท้องถิ่นจานแล้วจานเล่าถูกรังสรรค์ เช่น ปลาไหลนาผัดป่า หรือลาบเป็ด โดยเมนูของร้านจะเปลี่ยนไปทุก ๆ 2 เดือน
อันดับ 44 บ้านเทพา (Baan Tepa) – กรุงเทพ
เชฟเจ้าของร้าน เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ สร้างร้านอาหารและสวนอาหารในกรุงเทพฯ ที่ชูผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นและความหลากหลายทางชีวภาพของไทยในรูปแบบที่สร้างสรรค์ที่สุด
บ้านเทพาเปิดทำการในปี 2020 โดยเป็นที่ตั้งของห้องรับประทานอาหารแบบครัวเปิด เชฟเทเบิล และสวนอาหารออร์แกนิก ที่แขกสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและเครื่องเทศในท้องถิ่นก่อนจะนั่งลงรับประทานอาหาร
วัตถุดิบในท้องถิ่น ความคิดสร้างสรรค์ และความยั่งยืนเป็นสามเสาหลักของร้านอาหารบ้านเทพา และเชฟตามมุ่งมั่นที่จะนำสิ่งนี้มาแสดงในทุกจาน ทีเด็ดคือเมนูคอร์สที่จะพาผู้รับประทานอาหารออกเดินทางไปทั่วประเทศ เริ่มต้นด้วยของว่างจากภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลางของประเทศไทย โดยมีเมนูเช่น เส้นด๊องแด๊ง และกุ้งแม่น้ำ
อันดับ 31 กากัน แอต หลุยส์ วิตตอง (Gaggan at Louis Vuitton) – กรุงเทพ
เกิดจากการผสมผสานแนวคิดการขายปลีกและร้านอาหารเข้าด้วยกัน ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ บรรยากาศบนชั้นบนสุดของ LV The Place Bangkok สะท้อนถึงแก่นแท้ของ Louis Vuitton ผ่านโทนสีเอิร์ธโทนที่หรูหรา ขับเน้นด้วยสีส้มสดใสจากผ้าม่านและงานศิลปะ จานและที่ใส่ผ้าเช็ดปากประดับประดาบนโต๊ะหินอ่อน ในขณะที่พนักงานเสิร์ฟและเชฟแต่งตัวด้วยเสื้อผ้า Louis Vuitton ตั้งแต่หัวจรดเท้า
นอกเหนือจากห้องอาหารที่เป็นส่วนตัวและหรูหราแล้ว คุณจะพบกับความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกากันผ่านอาหารจานเด็ดอย่าง “Lick it Up” หรือโยเกิร์ตระเบิดอันโด่งดัง ที่นี่เน้นที่รสชาติเอเชียซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากอินเดีย ไทย และญี่ปุ่น
อันดับ 20 ฤดู (Le Du) – กรุงเทพ
ร้านที่เสิร์ฟไปตามกระแสของฤดูกาลเช่นเดียวกับชื่อร่าน มีเมนูร่วมสมัยที่เน้นเทคนิคต่าง ๆ ที่ เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ได้สั่งสมมาตลอดอาชีพการงานของเขา โดยจับคู่กับส่วนผสมตามฤดูกาล
ในเมนูคอร์ส 4 หรือ 6 จาน คุณจะได้ลิ้มรสอาหารอย่างข้าวแช่ซึ่งเป็นอาหารหลักของไทยในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถูกรังสรรค์ใหม่ด้วยไอศกรีมหอมมะลิเนื้อครีมจับคู่กับปาเตหมู กุ้ง และหัวไชเท้าดอง หรือปลาเก๋าเนื้อนุ่มจับคู่กับไข่มดแดงชั้นดี
อันดับ 16 ศรณ์ (Sorn) – กรุงเทพ
เชฟไอซ์-ศุภักษร จงศิริ เติบโตมากับอาหารใต้ของยาย และได้ใช้วิสัยทัศน์ส่วนตัวแปลงอาหารใต้ของไทยที่หลากหลายให้กลายเป็นอาหารแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร โดยยังคงไว้ซึ่งรสชาติที่เผ็ดลิ้นระเบิดที่ไม่ลดทอนความเผ็ดร้อนของพริกเลย
ศรณ์ถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่จองยากที่สุดในประเทศไทย จากงานบริการที่ไร้ที่ติ พนักงานต้อนรับที่ได้รับการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและความทรงจำที่เชฟใส่ลงไปในทุกจาน ในแต่ละคำ คุณจะได้รับแรงบันดาลใจจากความรักและความหลงใหลของเชฟไอซ์ที่มีต่อภาคใต้
อาหารทุกจานของศรณ์ไวต่ออุณหภูมิเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นอย่าใช้เวลานานเกินไปในการถ่ายภาพอาหาร ด้วยการควบคุมอุณหภูมิของอาหาร ศรณ์จึงสามารถถ่ายทอดลำดัการกระตุ้นประสาทสัมผัสได้ ซึ่งเพิ่มมิติใหม่ให้กับอาหารไทย
เมนูเด่นเช่น กรรเชียงปูเวอร์ชันของศรณ์ ผสมผสานสองส่วนที่มีค่าที่สุดของปูเข้าด้วยกัน ได้แก่ ไข่ปูและขาปู เนื้อปูที่อวบอิ่มและชุ่มฉ่ำเสิร์ฟแบบเย็นและเคลือบด้วยไข่ปูในครกหินแกรนิตขนาดเล็กซึ่งมีซอสพริกสีเหลืองเผ็ดร้อนอยู่ข้างใน
อันดับ 13 โพทง (Potong) – กรุงเทพ
ร้านอาหารโพทงได้รับรางวัลมากมายตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2021 โดยเป็นร้านอาหารชั้นดีจาก เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ ซึ่งนำเสนอเมนูอาหารไทย-จีนที่สร้างสรรค์ในใจกลางเยาวราชของกรุงเทพฯ
อาหารของร้านโพทงเน้นที่ห้าองค์ประกอบ ได้แก่ เกลือ กรด เครื่องเทศ เนื้อสัมผัส และปฏิกิริยา Maillard (กระบวนการทางเคมีในการลดน้ำตาลเพื่อให้ได้รสชาติที่โดดเด่น) เริ่มต้นด้วยชาร์กูเตอรีโฮมเมดและไวน์ที่เข้ากัน ก่อนจะดำเนินต่อไปด้วยคอร์สต่าง ๆ เช่น Historical Stories ที่มีไข่ปู ปูทะเล และขนมปังบรียอช หรือ Bold ที่ใช้เป็ดอายุ 14 วัน และ Heritage ที่ใช้ใบเตย ถั่วลันเตาและมะขาม
อันดับ 11 ซูห์ริง (Sühring) – กรุงเทพ
สองพี่น้องฝาแฝด มาธีอัส ซูห์ริง และโทมัส ซูห์ริง ได้ผสมผสานรสชาติ เทคนิค และประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากประเทศเยอรมนี บ้านเกิดของพวกเขา รวมถึงเนเธอร์แลนด์ อิตาลี และไทย มาไว้ในเมนูของร้าน จนออกมาเป็นเมนูอาหารชั้นสูงตามฤดูกาลที่มีความซับซ้อนและบางครั้งก็สนุกสนาน ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบเยอรมันอย่างชัดเจน
อาหารที่นี่ให้ความรู้สึกของเครื่องเทศรสจัดที่ผสมอย่างลงตัวกับอิทธิพลของยุโรป และอาหารจานเด็ดในเมนูได้แก่ หอยเชลล์กับฟักทองและสาหร่ายทะเล กุ้งมังกรกับวานิลลา ลูกพลับ และเฮเซลนัท เนื้อวากิว A5 ของคาโกชิมะกับแครอตคินโทกิและหางวัว และบะหมี่สปาตเซิลราดด้วยเห็ดทรัฟเฟิล Périgord
อันดับ 6 นุสรา (Nusara) – กรุงเทพ
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เขาเปิดร้านนุสราในปี 2020 ร่วมกับ ตาม-ชัยสิริ ทัศนาขจร น้องชายของเขา ร้านอาหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณย่าผู้เป็นที่รักของพวกเขา สังเกตได้จากชื่อร้านที่นำชื่อคุณย่ามาตั้ง
ห้องอาหารขนาดเล็กที่สามารถรองรับแขกได้เพียง 10 คน กลายเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองอย่างรวดเร็ว
ร้านนุสราได้รับแรงบันดาลใจจากสูตรอาหารของครอบครัว รวมถึงตำราอาหารจากห้องเครื่องของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นำมาปรับให้เป็นอาหารไทยสมัยใหม่ที่ผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับนวัตกรรม
แกงปูทะเลสีสันสดใสกลายเป็นหนึ่งในเมนูที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของร้านอาหารแห่งนี้ เสิร์ฟพร้อมเส้นกรอบ อาหารเรียกน้ำย่อยรสเผ็ดจัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่สมบูรณ์แบบสำหรับมื้ออาหารที่เน้นรสชาติไทยคลาสสิกที่ปรุงแต่งใหม่ให้มีความพิเศษยิ่งขึ้น อาหารจานหลักเสิร์ฟแบบครอบครัวตามธรรมเนียมของประเทศไทย เช่น สลัดปลาหมึกกับซอสหมึกและปลาหมึกย่าง แกงพะแนงและเนื้ออกวัว พริกไทยดำและมะเขือเทศเชอร์รี ฝรั่งสีชมพูและกระเจี๊ยบแดง และแซนด์วิชไอศกรีมไทย
อันดับ 1 กากัน (Gaggan) – กรุงเทพ
เชฟชาวอินเดีย กากัน อนันต์ (Gaggan Anand) ประกอบอาชีพเป็นมือกลองก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพด้านการทำอาหาร และหลงรักอาหารโมเลกุลาร์ เขาก่อตั้งร้านอาหารแห่งแรกในกรุงเทพฯ ชื่อ กากัน ในปี 2010 ก่อนจะปิดไปในปี 2019 แต่ไม่กี่เดือนต่อมา ก็ได้เปิดร้านใหม่ชื่อ กากัน อนันต์
จนในปี 2024 ร้านอาหารได้กลับมาใช้ชื่อเดิมคือ กากัน อีกครั้ง
ดนตรี สีสัน และความคิดสร้างสรรค์ ผสมผสานกันในเมนูของกากัน ถือเป็นจุดเด่นของอาหารอินเดียสมัยใหม่ที่ผสมผสานกับอาหารชั้นเลิศ โดยได้รับอิทธิพลจากอาหารฝรั่งเศส ไทย และญี่ปุ่น ตั้งแต่การใช้อีโมจิแทนอาหารแต่ละคอร์ส ไปจนถึงการบังคับให้ลูกค้ากินด้วยมือหรือแม้กระทั่งเลียจาน
นี่เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ที่กากันคว้าอันดับที่ 1 ของ Asia’s 50 Best Restaurants Awards มาได้ หลังจากได้รับรางวัลมาแล้วในปี 2015, 2016, 2017 และ 2018 โดยเมื่อปีที่แล้วร้านอาหารแห่งนี้ได้อันดับ 3
อันดับอื่นน่าสนใจไม่แพ้กัน
ร้านอาหารจีน 2 แห่งในฮ่องกง ได้แก่ The Chairman และ Wing คว้าอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ทั้งสองร้านขยับขึ้นมาสองอันดับ จากอันดับ 4 และ 5 จากปีที่แล้ว
ร้านอาหาร Sezanne ซึ่งเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแบบใหม่ที่ตั้งอยู่ในโรงแรม Four Seasons Tokyo โดย แดเนียล คาลเวิร์ต เชฟชาวอังกฤษ คว้าอันดับ 4 ในปีนี้
ร้าน Mingles ซึ่งนำเสนออาหารเกาหลีร่วมสมัยด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่นและเทคนิคระดับนานาชาติ คว้าอันดับ 5 โดยเป็นร้านอาหารที่ได้รับคะแนนสูงสุดในเกาหลี
เรียบเรียงจาก CNN / Asia’s 50 Best Restaurants