รายงานชุดเกรนส์ ออฟ ทรูธ งานวิจัยชิ้นใหม่จากอีทและโกลบสแกน (GlobeScan) ได้กล่าวถึงเรื่องความมั่นคงของอาหารไว้อย่างน่าสนใจ และมองว่า ผู้บริโภคมีบทบาทมากกว่ารัฐบาลในเรื่องอาหารที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เมนูทางเลือก "Plant-based" ของคนรักสุขภาพ วัตถุดิบง่าย ๆ ใช้แทนเนื้อสัตว์
Plant-based diet การรับประทานพืชเป็นหลัก ทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพและอนาคต
และพบว่า 42% ของผู้บริโภคทั่วโลกคิดว่า ผู้คนมีแนวโน้มจะกินอาหารแพลนต์เบส (plant-based) แทนเนื้อสัตว์จริงในอีก 10 ปีข้างหน้า จากความคิดเห็นของผู้บริโภคเกือบ 30,000 รายใน 31 ตลาดทั่วโลกเกี่ยวกับการจัดหาอาหารเพื่อสุขภาพ ความยั่งยืน และความเท่าเทียม
ผู้คนเริ่มที่จะเข้าใจผลกระทบเกี่ยวกับสภาพอากาศและธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตประจำวันของพวกเขามากขึ้น ยิ่งเมื่อเชื่อมโยงกับการระบาดของโควิด-19 สงครามในยูเครน และวิกฤตค่าครองชีพที่เร่งตัวขึ้น ผู้บริโภคเข้าใจปัญหาต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้หลายอุตสาหกรรมอาหารเริ่มหันมาหาทางเลือกอื่นๆ ระดมวิจัยอาหารทดแทน ที่จะช่วยลดผลกระทบเหล่านี้ได้ในอนาคต
คริส โคลเตอร์ (Chris Coulter) ซีอีโอของโกลบสแกน กล่าวว่า การวิจัยในเวลาที่เหมาะสมนี้ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกว่า ราคาอาหารที่สูงขึ้น การที่รัสเซียรุกรานยูเครนอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความไม่มั่นคงด้านอาหารได้อย่างไร
และ "แพลนต์เบส" กำลังเป็นคำตอบ และดูเหมือนว่าจะมีความหวังในการเปลี่ยนแปลงไปสู่การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้นในหมู่ผู้บริโภค การบริโภคอาหารแบบแพลนต์เบสเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก และผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับการเลือกอาหารมากขึ้น
ด้าน ดร.กันฮิลด์ สตอร์ดาเลน (Gunhild Stordalen) ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของอีท กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า ข้อเท็จจริงที่ผู้คนจำนวนมากทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้นนั้นเป็นสัญญาณที่ดี หากเป็นเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้ แทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่า 42% ของคนทั่วโลกจะเชื่อว่า อาหารแพลนต์เบสจะเข้ามาแทนที่เนื้อสัตว์ภายใน 10 ปีข้างหน้า