วิตามินซี ควรกินตอนไหน ให้ประโยชน์และผลดีต่อร่างกายมากที่สุด

โดย PPTV Online

เผยแพร่

วิตามินซี ควรกินตอนไหนถึงให้ร่างกายดูดซึมได้สูงสุด เพราะร่างกายมีจุดอิ่มตัวในการดูดซึมวิตามินซี เพื่อประโยชน์และผลดีสูงสุด ควรแบ่งกินสองครั้งต่อวัน

วิตามินซี ควรกินตอนไหน? คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมวิตามินซี

วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิกเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เนื่องจากช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวสวย เปล่งปลั่ง ดูกระจ่างใส และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ แต่วิตามินซีควรกินตอนไหนและปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดีที่สุด? ทั้งในแง่ของความปลอดภัยและประสิทธิภาพจากสรรพคุณของวิตามิน

คอนเทนต์แนะนำ
วิตามินบีรวม (Vitamin B complex) ช่วยอะไร ควรกินตอนไหนดีที่สุด?
อุณหภูมิร่างกายปกติคือเท่าไร? รวมข้อมูลที่ควรรู้เพื่อสุขภาพที่ดี
คอลลาเจนกินตอนไหนดี ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับร่างกาย

 

วิตามินซี ควรกินตอนไหน ให้ประโยชน์และผลดีต่อร่างกายมากที่สุด Freepik/freepik
กินวิตามินซีตอนไหนดีที่สุด

ในบทความนี้เราได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้วว่าควรกินวิตามินซีตอนไหนดีที่สุด รวมทั้งเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์แบบเต็มที่มากกว่าที่เคย

วิตามินซี ควรกินตอนไหนดีที่สุด เพื่อประโยชน์และความคุ้มค่า

วิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริมควรกินตอนไหนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด? การกินวิตามินชนิดนี้ควรเป็นช่วงหลังมื้ออาหารเช้าและเย็น เนื่องจากมี Vitamin C บางรูปแบบมีความเป็นกรด อาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองหรือเป็นแผล และแนะนำให้ดื่มน้ำตามในปริมาณมาก เพื่อป้องกันการเกิดนิ่วในไต

ไม่แนะนำให้กิน Vitamin C ความเข้มข้นสูงในคราวเดียว เนื่องจากงานวิจัยพบว่าการกินในปริมาณน้อยแต่สม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าและเป็นการรักษาระดับวิตามินในเลือดให้คงที่ตลอดทั้งวัน เพราะถึงแม้จะกินวิตามินในปริมาณมาก แต่ร่างกายมีจุดอิ่มตัวในการดูดซึม ปริมาณวิตามินที่ไม่สามารถดูดซึมได้ก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะ ดังนั้นหากให้แนะนำว่าวิตามินซี ควรกินตอนไหน คือควรแบ่งกินครั้งละ 500 mg วันละ 2 ครั้งจะช่วยให้ร่างกายรับประโยชน์จากวิตามินอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

6 ประโยชน์ของวิตามินซีที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

หากพูดถึงวิตามินซี เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคิดถึงในเรื่องการเป็นตัวช่วยให้ผิวใสหรือป้องกันหวัด แต่คุณอาจคาดไม่ถึงว่ามันยังมีประโยชน์และข้อดีอีกมากมาย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

  • ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน

Vit-C มีส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวดูสวย สุขภาพดี มีความเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ ยิ่งกินคู่กันบอกเลยว่าผิวสวยฉ่ำโกลว์แน่นอน หากใครสงสัยว่าคอลลาเจนและวิตามินซี ควรกินตอนไหนดีที่สุด แนะนำว่าควรกินคอลลาเจนตอนท้องว่าง เนื่องจากจะทำให้ดูดซึมได้ดีกว่า ส่วนวิตามินซีควรกินหลังอาหาร เพื่อป้องกันการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร

  • ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก

หากคุณมีภาวะโลหิตจางหรือรู้สึกอ่อนเพลีย นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังขาดธาตุเหล็ก ควรเลือกกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ผักใบเขียว นอกจากนี้ควรกิน Vitamin C เสริมด้วยเพราะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย คิดช้า สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก? สัญญาณเตือนของการขาดวิตามินบีรวม

  • วิตามินซีร่วมกับซิงค์ บูสต์พลังภูมิคุ้มกัน

วิตามินซีและซิงค์ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่วมกัน โดย Vitamin C จะกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวและทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ส่วนซิงค์ช่วยควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และเร่งการฟื้นตัว ทำให้ร่างกายต้านทานเชื้อโรคได้ดีขึ้น วิตามินซีและซิงค์ ควรกินตอนไหนให้ผลดีที่สุดคือให้กินตอนท้องว่าง เช่น ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง

  • ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก

วิตามินซีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเลนส์ตาจากความเสื่อมที่เกิดจากแสงแดด มลภาวะ และอายุที่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดการสะสมของโปรตีนที่ผิดปกติในเลนส์ตา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของต้อกระจก

  • ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน

วิตามินนี้เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้หลอดเลือดฝอยแข็งแรงและเหงือกสุขภาพดี ไม่อักเสบง่าย และป้องกันการเกิดเลือดออกตามไรฟัน

  • ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

Vit-C ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่เป็นโครงสร้างสำคัญของผิว ทำให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น ลดการอักเสบ และการติดเชื้อ แต่ถ้าอยากให้ได้ผลดี ก็ต้องรู้ว่าวิตามินซี ควรกินตอนไหน การแบ่งกินหลังอาหาร 2 มื้อต่อวันเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะร่างกายจะดูดซึมและนำไปใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า

วิตามินซีต้องกินเท่าไหร่ต่อวัน กินแบบไหนร่างกายดูดซึมได้สูงสุด

วิตามินซี ควรกินปริมาณเท่าไร? ปกติแล้วความต้องการวิตามินของร่างกายแต่ละคนแตกต่างกันสำหรับผลลัพธ์เรื่องผิวและสุขภาพโดยรวมแนะนำว่าควรกินปริมาณ 1,000 mg ต่อวัน โดยวิตามินซี 1000 mg ควรกินตอนไหนถึงให้ผลลัพธ์สูงสุด คือควรแบ่งกินครั้งละ 500 mg ต่อวัน วันละ 2 ครั้ง เพื่อรักษาระดับ Vitamin C ในร่างกายให้อยู่ตลอดวัน วิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมและรับประโยชน์ของวิตามินนี้อย่างเต็มที่ เพราะหากกินในปริมาณเยอะ ๆ ทีเดียว ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมได้ทั้งหมด และอาจทำให้ได้รับปริมาณวิตามินซีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

วิตามินซีเลือกแบบไหนดีกว่ากัน เทียบความแตกต่างให้เห็นแบบชัด ๆ

วิตามินซี แบบเม็ดฟู่ ควรกินตอนไหน Freepik/elen_heilin
วิตามินซี แบบเม็ดฟู่ ควรกินตอนไหน

หลังจากรู้ไปแล้วว่าวิตามินซี ควรกินตอนไหนดี? การเลือกรูปแบบ Vit-C ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากปัจจุบันในท้องตลาดมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ด แบบผง หรือแบบขวดพร้อมดื่ม ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อควรพิจารณาต่างกันออกไปดังนี้

  • วิตามินซีแบบอัดเม็ด : ขนาดทั่วไปที่พบเห็นได้บ่อยคือ 500 mg และ 1,000 mg ซึ่งแนะนำให้เลือกกินแบบ Slow-Release เพราะตัววิตซีจะค่อย ๆ ถูกปล่อยออกมา ทำให้ร่างกายดูดซึมได้เต็มที่ แต่แบบนี้ตัวเม็ดจะมีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาด้านการกลืน
  • วิตามินซีแบบแคปซูล : กลืนได้ง่ายกว่าแบบอัดเม็ด เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการรสชาติจาก Vit- C
  • วิตามินซีแบบเม็ดฟู่ : ละลายน้ำ ดื่มง่าย และดูดซึมได้เร็ว เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลืนยา โดยวิตามินซี แบบเม็ดฟู่ ควรกินตอนไหน? แนะนำว่าควรกินหลังมื้ออาหารทันทีเพื่อลดโอกาสเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • วิตามินซีแบบเคี้ยว : กินง่าย รสชาติอร่อย เหมาะกับเด็กหรือผู้ที่ไม่ชอบกลืนยา แต่บางสูตรมีน้ำตาลสูงและอาจทำให้ฟันผุได้ แนะนำให้เลือกสูตรที่ใช้สารทดแทนความหวานหรือน้ำตาลต่ำ
  • วิตามินซีแบบเม็ดอม : ละลายในปากได้ช้า ให้ความสดชื่น พกพาง่าย ไม่ต้องใช้น้ำ แต่ควรระวังเรื่องความเป็นกรดที่อาจกัดกร่อนเคลือบฟัน
  • วิตามินซีแบบผง : วิตามินรูปแบบนี้จะมีสารแคลเซียมแอสคอร์เบท 100% ทำให้ไม่มีความเป็น
  • กรด เหมาะกับคนที่มีปัญหาแผลในกระเพาะอาหารหรือกรดไหลย้อน
  • วิตามินซีแบบขวดพร้อมดื่ม : สะดวก ดื่มได้ทันที เหมาะกับการพกพา แต่ส่วนใหญ่มีน้ำตาลสูงและอาจมีปริมาณวิตามินที่น้อย
  • วิตามินซีแบบเจลลี่ : เคี้ยวง่าย รสชาติดี เหมาะกับเด็กและผู้ที่ไม่ชอบรสเปรี้ยวจัด แต่บางสูตรมีปริมาณวิตามินต่ำกว่ารูปแบบอื่น และอาจมีน้ำตาลสูง

5 ข้อควรระวังก่อนกินวิตามินซี กินให้ปลอดภัยสบายใจกว่า

แม้ว่าวิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากกินอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่รู้ว่ากินวิตามินซีตอนไหนดีที่สุด ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน

1. ไม่ควรกินเกินปริมาณที่แนะนำ

ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 85-100 mg สำหรับผู้ใหญ่ และไม่ควรเกิน 2,000 mg ต่อวัน การกินเกินขนาดอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้

2. เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต

หากได้รับ Vitamin C ปริมาณสูงเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตถึง 1.43 เท่าเทียบกับคนที่ได้รับในปริมาณที่น้อยกว่า

3. อาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนหรือระคายเคืองกระเพาะอาหาร

วิตามินรูปแบบกรดแอสคอร์บิกอาจทำให้บางคนมีอาการกรดไหลย้อนหรือกระเพาะอาหารระคายเคือง แนะนำให้เลือกแบบที่เป็นแอสคอร์เบต (Buffered Vitamin C) ซึ่งไม่มีฤทธิ์เป็นกรดจะดีกับอาการที่เป็นอยู่มากกว่า

4. ไม่ควรกินพร้อมยาบางชนิด

Vit-C อาจรบกวนการทำงานของยาบางกลุ่ม เช่น ยากลุ่มผู้ป่วยโรคไต ยาเคลือบกระเพาะ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น

5. ควรกินในเวลาที่เหมาะสม

วิตามินซี ควรกินตอนไหนถึงปลอดภัย? แนะนำให้กินหลังอาหาร เพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะ ไม่ควรกินขณะที่ท้องว่างเนื่องจากความเป็นกรดอาจกัดกร่อนจนเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้

วิตามินซี ควรกินตอนไหนดีที่สุด ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์แบบชัดเจน

หลายคนที่สงสัยว่าวิตามินซี ควรกินตอนไหน การกินวิตามินซีอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และได้ประโยชน์สูงสุด ควรกินตอนไหนดีที่สุด คำตอบคือควรกินหลังมื้ออาหาร ไม่กินขณะที่ท้องว่างหรือก่อนนอน เพราะอาจทำให้กระเพาะเกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่กิน Vit-C ความเข้มข้นสูงในครั้งเดียว แนะนำว่าควรแบ่งกินครั้งละ 500 mg วันละ 2 ครั้ง หรือเลือกกินเป็นวิตามินประเภท Slow Release ที่ค่อย ๆ ปล่อยวิตามินออกมาช้า ๆ จะทำให้ให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้มีประสิทธิภาพกว่า

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ