อาการร้อนในกี่วันหาย รวมวิธีแก้-รักษาแผลให้หายไวแบบตรงจุด

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ร้อนในกี่วันหาย ปัญหาแผลในปากที่ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัย ตั้งแต่ระยะเวลาของอาการ ร้อนในเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ยังไง ร้อนในรักษายังไง หาคำตอบได้ที่นี่

ร้อนในกี่วันหาย? รวมสาเหตุ อาการ และวิธีแก้ร้อนในให้แผลหายไว

แผลร้อนในเล็ก ๆ ในปาก อาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่พอเป็นทั้งทีแล้วกลับทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของหลาย ๆ ลำบากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การรับประทานอาหาร หรือแม้แต่การดื่มน้ำ ล้วนกลายเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดและรู้สึกเจ็บแผลไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะถ้าเป็นร้อนในที่ลิ้น หรือมีอาการลิ้นเป็นแผล เป็นแผลในปาก กระพุ้งแก้ม ยิ่งทำให้รู้สึกแสบ เจ็บ จนแทบไม่อยากขยับปากเลยทีเดียว

คอนเทนต์แนะนำ
ของเหลวขึ้นเครื่องได้เท่าไร กฎแต่ละสายการบินเป็นอย่างไรบ้าง
แนะนำ 10 สวนน้ำยอดฮิตสุดปัง ที่ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ต้องร้องว้าว
เจาะลึกประโยชน์ของพิลาทิส พร้อมเคล็ดลับเริ่มต้นสำหรับมือใหม่

what-is-canker-sores Freepik/8photo
ร้อนใน คือ

จนอดสงสัยไม่ได้ว่าจะต้องทนกับอาการร้อนในไปจนถึงเมื่อไหร่ แล้วเป็นร้อนในกี่วันหายกันแน่

ในบทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจของการเป็นร้อนใน ตั้งแต่สาเหตุ วิธีดูแล รักษาให้ร้อนในหายไวขึ้น และสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมทั้งคำแนะนำว่าเมื่อเป็นร้อนในห้ามกินอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้อาการแย่ลงกว่าเดิม

ร้อนใน คืออะไร เป็นร้อนในกี่วันหาย?

ร้อนใน หรือแผลในปาก (Canker Sores) คือ แผลเล็ก ๆ ที่เกิดในช่องปาก เช่น บริเวณกระพุ้งแก้ม บริเวณด้านในของริมฝีปากบริเวณโคนเหงือก และยังรวมไปถึงบริเวณบนลิ้นหรือใต้ลิ้นอีกด้วย โดยแผลร้อนในนั้นจะมีลักษณะวงกลมหรือวงรีตื้น มีสีขาวหรือเหลือง ล้อมด้วยขอบแดงรอบ ๆ ซึ่งแผลดังกล่าวเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้ผู้ที่เป็นรู้สึกเจ็บขณะพูดคุยหรือรับประทานอาหาร 

เป็นร้อนในกี่วันหาย? โดยทั่วไปแล้วแผลร้อนในจะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วง 2-3 วัน และอาการจะค่อย ๆ หายไปจนกลับมาปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผลร้อนในแต่ละคน รวมไปถึงการดูแลตัวเองในขณะที่เป็นแผลร้อนในด้วย

ร้อนในเกิดจากสาเหตุใด?

เป็นร้อนในบ่อย เกิดจากอะไร? โดยทั่วไปแล้วแผลร้อนในนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และการเป็นร้อนในเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

  • ความเครียด ความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจสามารถกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้
  • ขาดสารอาหารบางชนิด ละเลยการกินอาหาร 5 หมู่ ขาดวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก หรือสังกะสีอาจทำให้เกิดแผลร้อนในได้
  • การดื่มน้ำหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ บางครั้งการดื่มน้ำในแต่ละวันน้อยจนเกินไป หรือร่างกายพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ก็ส่งผลทำให้เกิดอาการร้อนในขึ้นได้เช่นกัน
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงก่อนหรือระหว่างการมีประจำเดือนในผู้หญิง
  • การบาดเจ็บเล็กน้อยภายในช่องปาก เช่น การแปรงฟันแรงเกินไป การกัดกระพุ้งแก้ม เครื่องมือจัดฟันทิ่มจนทำให้เกิดการระคายเคือง หรืออุบัติเหตุจากกีฬา เป็นต้น
  • สารระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก การใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากบางชนิดที่มีส่วนผสมของโซเดียมลอริลซัลเฟต (SLS) อาจทำให้เยื่อบุในปากระคายเคือง
  • การสูบบุหรี่และการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน อาจทำให้เกิดแผลร้อนในได้
  • การติดเชื้อและระบบภูมิคุ้มกัน บางครั้งแผลร้อนในอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่องปากหรือเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคอื่นๆ เช่น โรคหวัด นอกจากนี้ หากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ภูมิคุ้มกันในร่างกายตก ก็อาจส่งผลทำให้เกิดแผลในปากได้เช่นกัน

การรักษาแผลร้อนใน มีวิธีไหนบ้าง?

canker-sores-treatment Freepik/EyeEm
ร้อนใน วิธีรักษา

แม้ว่าแผลร้อนในจะค่อย ๆ ดีขึ้นได้เองก็ตาม แต่การรักษาให้ถูกวิธีจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และช่วยให้แผลในปากหายเร็วขึ้น ซึ่งวิธีการรักษาแผลร้อนใน มีดังต่อไปนี้

  • บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือหลังมื้ออาหาร ช่วยฆ่าเชื้อและลดการระคายเคืองของแผลร้อนในได้
  • ใช้ยาทาบรรเทาอาการแผลร้อนใน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นยาทาในรูปแบบเจลหรือขี้ผึ้ง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โดยตัวยาที่นิยม ได้แก่ ลิโดเคน (Lidocaine), เบนโซเคน (Benzocaine), ไตรแอมซิโนโลน อะเซโตไนด์ (Triamcinolone acetonide) เป็นต้น
  • แปรงฟันเบา ๆ สำหรับใครที่มีแผลร้อนใน แนะนำว่าไม่ควรแปรงฟันแรงจนเกินไป อาจทำให้เหงือกหรือบริเวณอื่น ๆ ภายในช่องปากเกิดการระคายเคืองได้ หากใครที่มีแผลร้อนในอยู่ แนะนำว่าให้แปรงฟันอย่างถูกวิธี ไม่ใช้แปรงสีฟันที่ขนแข็งจนเกินไป และรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น โซเดียมลอริลซัลเฟต 
  • งดการรับประทานอาหารรสจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารรสเผ็ด เปรี้ยว หรือผลไม้ที่มีกรด เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด เพราะทำให้รู้สึกแสบแผลมากขึ้น และแผลหายช้าลง
  • รับประทานยาปฏิชีวนะ หากเกิดแผลร้อนในบริเวณเดิมบ่อยครั้ง แพทย์จะพิจารณาการจ่ายยาปฏิชีวนะให้รับประทานเพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้น เช่น ดอกซีไซคลีน (Doxycycline)
  • รักษาแผลร้อนในด้วยการจี้ไฟฟ้า ในเคสที่แผลร้อนในมีความรุนแรงมาก แพทย์จะรักษาด้วยวิธีการจี้ไฟฟ้าบริเวณแผลร้อนใน เพื่อให้แผลสมานตัวและหายเร็วยิ่งขึ้น

ไม่อยากเป็นร้อนใน มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง?

ถ้าไม่อยากรู้สึกหงุดหงิดจากการเป็นร้อนใน โดยเฉพาะตอนทานอาหารหรือพูดคุยกับเพื่อน ลองปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้ ก็สามารถช่วยป้องกันการเกิดร้อนในได้

  • ดื่มน้ำเปล่าในแต่ละวันให้เพียงพอ
  • นอนหลับพักผ่อนให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายภูมิคุ้มไม่บกพร่อง 
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เช่น วิตามินบีรวม วิตามินซี เป็นต้น 
  • หมั่นแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อทำความสะอาดภายในช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ
  • ปล่อยวาง ไม่เก็บเรื่องเล็กน้อยมาเป็นความเครียด
  • ลดการรับประทานอาหารที่มีรสจัด ของทอด ของมัน และผลไม้บางชนิด เช่น ลำไย ทุเรียน เป็นต้น

ร้อนในแบบนี้อย่าละเลย รีบพบแพทย์โดยด่วน

is-canker-sores-dangerous stefamerpik
ร้อนในอันตรายไหม

แม้ว่าร้อนในจะไม่อันตราย และสามารถค่อย ๆ หายเองได้ก็ตาม แต่ถ้าเริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติเหล่านี้ แนะนำว่าไม่ควรละเลยอาการดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

  • มีอาการเจ็บบริเวณแผลร้อนในเกิน 2 สัปดาห์ และอาการเจ็บไม่ดีขึ้น แม้จะรักษาและบรรเทาอาการด้วยวิธีเบื้องต้นแล้วก็ตาม
  • แผลมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หรือเริ่มลุกลามไปยังบริเวณอื่นในช่องปาก
  • แผลร้อนในเกิดขึ้นหลายจุดในเวลาเดียวกัน และยังไม่ทันหายดีก็มีแผลใหม่เกิดขึ้นเพิ่มอีก
  • แผลร้อนในทำให้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำลำบาก
  • มีอาการไข้สูงร่วมด้วย หรือรู้สึกไม่สบายตัว เบื่ออาหาร

ร้อนในกี่วันหาย? รวมวิธีแก้ให้หายไว ไม่ต้องทนเจ็บอีกต่อไป

ใครที่เคยเป็นแผลร้อนในคงรู้ดีว่า ทั้งเจ็บ ทั้งรำคาญ โดยเฉพาะเวลาอยากทานของอร่อย แต่แผลร้อนในเล็ก ๆ ที่อยู่ในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นที่กระพุ้งแก้ม ลิ้น หรือเหงือก ก็ทำให้รู้สึกเจ็บ หรือทานของอร่อยเข้าไปแล้วก็สุขได้ไม่สุด จนหลาย ๆ คน ตั้งคำถามกันว่าร้อนในกี่วันหายกันแน่

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแผลเหล่านี้จะหายเองใน 1–2 สัปดาห์ แต่ถ้าเราดูแลตัวเองไม่เพียงพอ เช่น เครียดบ่อย นอนน้อย ดื่มน้ำน้อย หรือขาดวิตามิน แผลร้อนในก็จะแวะเวียนมาทักทายได้บ่อยขึ้น ซึ่งวิธีที่ช่วยให้แผลหายไวก็มีมากมาย เช่น บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ ทายา หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด และพักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากแผลยังไม่หาย หรือเริ่มลุกลาม แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมทันที

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ