ผักและผลไม้ลดอาการบวมโซเดียม ขับปัสสาวะ รักษาสมดุลน้ำในร่างกาย
บวมน้ำ บวมโซเดียม บวมเค็มปัญหาหนักอกหนักใจของหนุ่มๆสาวๆ แล้วมีผักผลไม้ชนิดไหนแก้ได้บ้าง ? มาเช็กลิสต์กันค่ะ!
หลายครั้งที่ตื่นมาแล้วตกใจที่อยู่ๆทำไมหน้าบวม ฝ่ามือ เท้าดูบวมๆ ทั้งที่เมื่อวานยังปกติ แต่พอสักพักอาการบวมต่างๆ ก็ยุบหายไปเอง อาการเหล่านี้เลือกว่า อาการบวมน้ำ (Edema) ซึ่งไม่ใช่เกิดจากการกินน้ำมากเกินไป แต่อาจะเกิดจากที่เรากินเค็มของสำเร็จรูป หรือโซเดียมมากเกินไป
นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอื่นๆที่ทำให้เกิดการบวมน้ำได้
- อาการเจ็บป่วย หรือ การแพ้ยาบางชนิด
- กินอาหารรสจัด เค็มจัดและเผ็ดจัด เพราะเกลือมีส่วนในการเพิ่มปริมาณของเหลวในร่างกาย จึงส่งผลทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้
กลุ่มอาหารโซเดียมสูง กินมากเสี่ยงไตวาย-โรคหัวใจ-กระดูกพรุน
หมดปัญหาตื่นมา“ถุงใต้ตาบวม”เสริมสร้างความมั่นใจฉบับเร่งด่วนและถาวร
- การนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสภาพอากาศร้อน
- การตั้งครรภ์
- สำหรับสุภาพสตรีมักจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือมีการเปลี่ยนเเปลงของฮอร์โมน
อาหารช่วยลดบวมโซเดียม!
- มะเขือเทศ อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยลดอาการท้องอืดลดระดับโซเดียมในร่างกาย เพราะมีน้ำค่อนข้างเยอะ เมื่อกิยแล้วจะช่วยให้ร่างกายลดความต้องการของเหลวจากแหล่งอาหารอื่น
- ส้ม อุดมไปด้วยวิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ มีสรรพคุณที่สำคัญนั่นก็คือการช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย
- แตงกวา มีสารโพลีฟีนอลที่ช่วยขับน้ำส่วนเกินในร่างกาย ช่วยปรับสมดุลน้ำในร่างกาย รวมถึงช่วยให้ผิวสวย และช่วยในการขับถ่าย อีกทั้งยังมีสารเควอซิทิท (quercetin) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติช่วยลดอาการบวมที่เกิดจากการสะสมน้ำในร่างกายเกิมความจำเป็น อีกทั้งยังมีวิตามินซี ซึ่งดีต่อผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีอีกด้วย
- อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ปราศจากฟรุกโตสและซอร์บิทอลซึ่งเป็นเหตุทำให้เกิดท้องอืดและก๊าซ และยังมีเส้นใยที่ละลายน้ำ ช่วยให้การย่อยอาหารของเราดีขึ้น มีเส้นใยที่ละลายน้ำได้ซึ่งช่วยในการย่อยแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ช่วยให้การย่อยอาหารของเราดีขึ้น
- สับปะรด มีสรรพคุณในการช่วยขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร ลดแก๊สในกระเพาะอาหาร
- หน่อไม้ฝรั่ง มีกรดอะมิโนแอสพาราจีน มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับน้ำส่วนเกินและขับโซเดียมออกจากร่างกาย อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร อีกทั้งคาร์โบไฮเดรตชนิดฟรุกโตสโตโอลิโกแซคคาไรด์ยังให้โพรไบโอติกกับลำไส้ ปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ลดกรดและแก๊สในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
- กล้วยหอม เป็นแหล่งของไฟเบอร์สูง และ มีวิตามินบี1,บี2 ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการเผาผลาญน้ำตาลและไขมันในร่างกาย มีโพแทสเซียมช่วยให้ร่างกายของเรากำจัดโซเดียมและมีส่วนสำคัญในการลดอาการบวมน้ำได้
- ถั่ว เพราะอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแม็กนีเซียม ที่สามารถช่วยลดอาการบวมน้ำได้ แต่ควรเลือกทานถั่วที่ไม่มีเกลือผสมนะคะเพื่อถนอมไตของเรา
- แตงโม ช่วยลดการสะสมของไขมันไม่ดีในร่างกาย และมีสารอาหารไลโคปีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเกิดมะเร็ง ช่วยล้างสารพิษในร่างกายเนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีน้ำถึง 90 % ซึ่งจะช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ปรับสมดุลให้เหมาะสม
- น้ำสะอาด แน่นอนค่ะว่า น้ำเปล่าคือ เครื่องดื่มที่ดีที่สุด การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายสมดุลแข็งแรง ลดบวมโซเดียมได้เป็นอย่างดีค่ะ
โรคไต ไม่กินเค็มแต่รักโซเดียมก็เสี่ยงได้ แนะวิธีป้องกันไตทำงานหนัก
ทั้งนี้ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสม เพราะไม่ว่าต่อให้ตัวผลไม้หรือพืชผักมีประโยชน์แค่ไหนกินมากไปก็เป็นโทษได้เช่นกัน และ อย่าลืมนะคะว่า โซเดียมในแต่ละวันที่เราสามารถกินเข้าได้คือ 2,300 มิลลิกรัมต่อวันหรือเมื่อเทียบเป็นเกลือป่นอยู่ที่ประมาณ 1 ช้อนชาหรือ 6 มิลลิกรัม เท่านั้น วิธีการจำกัดโซเดียมในแต่ละวันคือการลดการปรุงให้มากที่สุด เลี่ยงอาหารสำเร็จรูป หรือรสจัด ทั้งหวาน มันเค็ม หรือเผ็ดเกินไป เพราะทั้งหมดล้วนทำให้โซเดียมพุ่งกระฉูดและเกิดอาการบวมน้ำได้ค่ะ นอกจากการกินแล้ว การออกกำลังกายก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้ไม่บวมน้ำบวมโซเดียมแล้วสุขภาพยังแข็งแรงอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหากมีอาการบวมที่ปกติ ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องต่อไปค่ะ
เช็ก! สัญญาณโรคไตเสื่อม ปัสสาวะสีผิดปกติ-เป็นฟอง ปวดหลัง ใช่หรือไม่?
วิธีดูแลไตไกลโซเดียม แนะปริมาณโปรตีนตามไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะผู้ป่วยไตเสื่อม