อาหารเสี่ยงท้องเสียหน้าร้อน เช็กก่อนกินลดท้องร่วงร่างกายขาดน้ำอันตราย!
นอกจากอากาศที่ร้อนจัดแล้ว การใส่ใจอาหารที่กินเข้าไปก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะหากไม่ระวังอาจเกิดปัญหาท้องร่วงท้องเสียตามมา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเสีนชีวิตได้!
หน้าร้อนต้องระวังเป็นพิเศษคืออาการการกินเพราะหากละเลยอาจเสี่ยงทำให้ท้องเสียเกิดอุจจาระร่วงได้ โดยที่เราไม่ได้เตรียมไปเองก็ต้องคำนึงถึงความสะอาด ซึ่งหลักการง่ายๆ ก็คือ เลือกกินอาหารที่ปรุงสุก และยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ” เพื่อลดเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ
อาหารบูดง่ายเสี่ยงท้องเสีย
จริงๆ แล้วอาหารทุกชนิด หากมีการปนเปื้อน หรือทิ้งไว้นานๆ หลังปรุงสุก ก็มักเป็นสาเหตุของการท้องเสียได้ง่าย แต่อาหารที่จะต้องระวังเป็นพิเศษก็มี เช่น
- อาหารทะเล
- หมูกระทะ ที่ปรุงไม่สุกพอ
หน้าร้อน! ระวังเรื่องอาหารบูดง่าย เช็กก่อนกิน เสี่ยงอาหารเป็นพิษ
อาหารรับฤดูร้อน อะไรกินดีรักษาสมดุลสุขภาพ อาหารแบบไหนเสี่ยงร้อนใน!

- ข้าวมันไก่
- ส้มตำ ลาบ-ก้อยดิบ
- ยำต่างๆ เช่น กุ้งเต้น ยำหอยแครง
- ข้าวผัดโรยเนื้อปู
- อาหารหรือขนมที่มีกะทิ หรือราดด้วยกะทิสด
- ขนมจีน
- สลัดผัก
- น้ำแข็งที่ผลิตไม่ได้คุณภาพ ปนเปื้อสารพิษหรือสิ่งสกปรก
การปล่อยให้ท้องเสียติดต่อกันเป็นวันๆ โดยไม่ทำอะไรเลย อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ขาดเกลือแร่ที่จำเป็นจนเกิดภาวะช็อกได้ นอกจากนี้การติดเชื้อบางอย่างจะทำให้มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย และถึงกับเป็นลมหมดสติได้ เพราะฉะนั้น เราควรเข้าใจถึงระดับความผิดปกติของการขับถ่าย ว่าแบบไหนคือถ่ายท้องปกติแบบท้องเสียเล็กน้อย และแบบไหนที่เข้าข่ายท้องเสียหนักหรือมีการติดเชื้อรุนแรง เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่าจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาแล้ว
สัญญาณท้องเสียผิดปกติ
- อุจจาระเหลว หรือถ่ายออกเป็นน้ำ มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน
- มีอาการปวดท้องเกร็งที่รุนแรงกว่าปกติ
- รู้สึกอ่อนเพลีย และเหมือนมีไข้อ่อนๆ
โดยปกติ อาการท้องเสียทั่วไปมักหายได้เองภายใน 1-2 วัน แต่หากใครก็ตามที่ท้องเสียต่อเนื่องนานเกินกว่า 3 วัน ก็ควรไปพบแพทย์
เครื่องดื่มสมุนไพรดับร้อน เพิ่มความสดชื่น แก้ร้อนใน ป้องกันไข้แดด
วิธีป้องกันท้องเสียเบื้องต้น
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ
- ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหลังทำกิจกรรมต่างๆ ทุกครั้ง
- เลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดองที่ไม่มั่นใจในคุณภาพและความสะอาด เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่
- หากท้องเสีย ควรดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผสมผงน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
- รับประทานยาแก้ท้องเสีย (Diosmectitie) ซึ่งจะช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และบรรเทาอาการได้
- รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ซุป เลี่ยงอาหารที่มีรสจัด ของหมักดอง และอาหารที่มีไขมันสูง
หากผ่านไป 3 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ยังรู้สึกอ่อนเพลีย ริมฝีปากแห้ง เวียนศีรษะ มีเลือดออกปนในอุจจาระ หรือมีเลือดปนในอาเจียน ควรรีบพบแพทย์ ไม่ควรรอให้อาการท้องเสียนั้นหายไปเอง เพราะอาจมีแนวโน้มของโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมอยู่ เช่น โรคสำไส้อักเสบ หรืออาการท้องเสียนั้นอาจเกิดจากอาการตอบสนองต่อยาบางประเภท หรือมีการติดเชื้อไวรัสโรต้า เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท
10 อาหารเช้าที่ควรหลีกเลี่ยง แม้จะหาง่ายหรือเร่งรีบแค่ไหนก็ตาม
อาหารต้านหวัด จะร้อนจะฝน ก็เพิ่มภูมิต้านทาน แก้คัดจมูกลดน้ำมูกได้!