เหตุการณ์ “น้องต่อ” วัย 8 เดือน หายตัวไปจากบ้านในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ล่าสุดยังไม่พบตัวเด็ก ขณะเดียวกัน มีข้อมูลน่าสนใจจากมูลนิธิกระจกเงา รวมถึงบิ๊กโจ๊กที่เข้ามาเร่งรัด จากหลักฐานต่างๆและการเทียบเคียงกับกรณีเด็กหายอื่นๆ ตอนนี้ “น้องต่อ” อาจไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ปลอดภัยหรือไม่
ครบ 10 วันเต็มที่น้องต่อ หรือ เด็กชายต่อศักดิ์ หนุ่มน้อยวัยเพียงแค่ 8 เดือน หายตัวไปจากบ้านพัก อย่างปริศนา โดยมีเบาะแสสุดท้ายจากแม่ของเด็ก ให้ข้อมูลว่ามีชายเสื้อสีเหลืองอุ้มตัวไป
เจ้าหน้าทีระดมกำลังทั้งการปูพรมค้นหาในชุมชนทุกรูปแบบ ทั้งสอบพยานบุคคล เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ภาพกล้องวงจรปิดรอบพื้นที่ ตรวจสอบประวัติสอบเส้นทางการเงินพ่อแม่ แต่ก็ยังคงไร้วี่แววของหนูน้อย
หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายฯ มูลนิธิกระจกเงา ที่ลงพื้นที่ตั้งแต่วันแรก มองว่าเบาะแสสำคัญ ยังคงซ่อนอยู่ภายในบ้านและชุมชน ส่วนประเด็นที่หลายคนเป็นห่วงที่สุดคือความปลอดภัย ทุกคนต่างก็ภาวนาให้หนูน้อยยังมีชีวิต แต่หากเทียบจากกรณีเด็กหายที่เคยเกิดขึ้น ก็มีจุดน่าสังเกต ว่าถ้าเด็กไปอยู่กับใครจริงๆ น่าจะมีการนำตัวมาคืนแล้ว เช่นกรณีน้องจีน่า ที่จังหวัดเชียงใหม่
"ก็มาเทียบเคียงคดีนี้ว่าคดีนี้เป็นข่าวดัง เป็นที่จับจ้องเป็นที่ติดตามของสังคม มีตำรวจลงไปสืบสวนติดตามกดดัน ถ้ามันเป็นกรณีที่เด็ก ถูกเอาไปไว้กับบุคคลใกล้ตัวบุคคลใกล้ชิด ผมก็คิดว่าถ้ามันเป็นเหมือนเคสต่างๆที่ผ่านมา การได้ตัวกลับคืนมามันควรจะได้ตัวกลับคืนมาแล้ว ในขณะเดียวกันมีหลายเคสนะครับที่เด็กเล็กหายไป แล้วปรากฏว่าต่อมาเสียชีวิต แล้วมันเกิดเหตุโดยคนในชุมชนคน โดยคนในครอบครัว โดยคนใกล้ชิดเนี่ย ก็เป็นเรื่องยากนะครับที่จะให้ผู้ต้องสงสัย หรือคนที่เราคิดว่าเขาเป็นผู้ก่อเหตุรับสารภาพจนกว่าจะเจอศพ"
ครบ 10 วันเต็ม ที่ทุกคนเฝ้าติดตามน้องต่อ ขณะเดียวกันก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในครอบครัวของหนูน้อย และชุมชน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตำบลหินมูล อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นจุดสนใจของทุกสายตา แต่คือปมขัดแย้ง ที่จะยังคงทิ้งรอยร้าวหลังจากนี้
"เวลามันเกิดเหตุแบบนี้ในชุมชนในครอบครัวซึ่งมันไม่สามารถมีเหตุผลหรือพยานหลักฐานที่ชี้ขาดว่าครอบครัวไม่เกี่ยวข้องหรือคนในชุมชนไม่เกี่ยวข้อง ดังนั้นเวลามันถูกนำเสนอว่าพ่อแม่หรือเปล่าญาติพี่น้องหรือเปล่าคนในชุมชนหรือเปล่ามันเป็นข้อคิดเห็นมากกว่าข้อเท็จจริง อันนี้มันจะกลายเป็นความขัดแย้งที่ฝังลึกไปในครอบครัวและชุมชนด้วยไหมคะ คือแน่นอนว่ามันไม่เหมือนเดิมเราดูลักษณะของการต่างฝ่ายต่างให้สัมภาษณ์ ต่างฝ่ายต่างให้ข้อมูลหรือว่ามีรายการทีวีหรือสื่อมวลชนที่อาจจะเอาผู้ขัดแย้งมาเผชิญหน้ากันในลักษณะ แบบนี้มันก็ยิ่งสร้างรอยร้าวแต่ไม่ใช่การหาข้อเท็จจริง"
ล่าสุดคดีนี้ ตำรวจในพื้นที่ระบุว่ายังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งสอบพยานและหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยจะเร่งปิดคดีให้เร็วที่สุด ไม่ตัดประเด็นทั้งการนำตัวเด็กไป การฆาตกรรม หรือการซุกซ่อนศพ
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกมาตำหนิตำรวจในพื้นที่หลังคดีไม่มีความคืบหน้า รอง ผบ.ตร. เชื่อว่าพ่อและแม่ของเด็กคือคนที่ รู้ดีที่สุดว่าลูกหายไปไหน และตอนนี้ไม่แน่ใจเด็กยังมีชีวิตอยู่หรือไม่