รัสเซียอ้าง ยึด “เคอร์ซอน” เมืองท่าสำคัญทางใต้ของยูเครนได้แล้ว
รัสเซียยกระดับโจมตี ส่งทหารพลร่มบุกคาร์คิฟ
เริ่มต้นด้วยสถานการณ์ในเมืองล่าสุดที่ถูกรัสเซียยึด ภาพจากเมืองเคอร์ซอนเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา จะเห็นกลุ่มทหารที่เดินเข้ามาในเมืองบ่งชี้ว่ารัสเซียมาถึงแล้ว หลังใช้เส้นทางขึ้นมาจากไครเมีย อย่างไรก็ตามรายงานจากนายกเทศมนตรีเมือง ยืนยันว่าเมืองเคอร์ซอนยังไม่แตก แม้รัสเซียจะบุกเข้ามาแล้วก็ตาม
ขณะที่ส่วนอีกภาพเผยให้เห็นว่า ทหารรัสเซียบางนายพยายามที่จะบุกรุกเข้าไปในอาคารของเมืองเคอร์ซอน อีกทั้งยังมีรายงานการปะทะกันระหว่างทหารรัสเซียและทหารยูเครนในหลายจุดของเมือง
มาดูว่ารัสเซียยึดพื้นที่ได้มากแค่ไหนแล้ว จากแผนที่ บริเวณสีแดงคือจุดที่รัสเซียยึดได้ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงเมืองเคอร์ซอนที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เป็นเมืองท่าที่ไม่ไกลจากไครเมียมากนัก
เคอร์ซอน ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะเป็นจุดเชื่อมจากไครเมียเข้ามาในยูเครน ถ้ายึดเมืองนี้ได้ รัสเซียก็จะบุกเข้ามาในยูเครนได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้เคอร์ซอนเป็นทางผ่านของเสบียงที่ส่งจากตะวันตกไปตะวันออก หากรัสเซียยึดเคอร์ซอนได้ กองกำลังยูเครนจะถูกลดกำลังลง
อีกจุดที่กำลังสร้างความหวั่นใจคือ เมืองเมรโตปอล และซาโปริซเซีย ซึ่งเมืองที่สองมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปตั้งอยู่ หากรัสเซียรุกคืบจากเคอร์ซอนขึ้นมายึดอีกสองเมืองนี้ได้ จะเห็นว่าพวกเขาได้พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด
ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือ และทางตอนเหนือ ขณะนี้เมืองคาร์คีฟ และกรุงเคียฟของยูเครนก็กำลังถูกรัสเซียรุกคืบเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
ล่าสุดมีภาพที่ถูกเผยแพร่ต่อกันบนโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นการโจมตีจากรัสเซียมุ่งเป้าไปยังโครงสร้างทางสาธารณูปโภคในกรุงเคียฟ
ธนาคาร Sberbank ของรัสเซียถอนตัวออกจากยุโรป หลังกระแสเงินสดทะลักไหลออก
รัสเซียรุกประชิดเคียฟ หอสัญญาณโทรทัศน์ถูกโจมตี
ภาพที่ได้รับการเผยเแพร่โดย วิตาลี คลิทชโก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เผยให้เห็นวินาทีที่จรวด 2 ลูก ยิงเข้าใส่หอกระจายสัญญาณโทรทัศน์ บริเวณอนุสรณ์สถานบาร์บินยาร์ ซึ่งเป็นสถานที่รำลึกเหตุการณ์กองทัพนาซีเยอรมนีสังหารหมู่ชาวยิวกว่า 30,000 คนในกรุงเคียฟ ช่วงสงครามโลกครั้งที่2
การโจมตีล่าสุดนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน โดยเป็นพลเรือนทั้งหมดที่สัญจรอยู่บริเวณนั้น หลังจากนั้น นายกเทศมนตรีของเคียฟออกมาเตือนประชาชนว่า วันนี้ขอให้หลีกเลี่ยงการออกมาเดินตามท้องถนน เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิดการโจมตีจากฝ่ายรัสเซียอีก ผลจากการโจมตีตามมาด้วยเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งเข้าดับไฟในอาคาร อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า สถานีดังกล่าวยังสามารถออกอากาศผ่านระบบดาวเทียมและออนไลน์ได้ แม้เสาสัญญาณจะถูกโจมตี
“ปธน.เซเลนสกี” ลั่นพร้อมสู้ไม่ถอย ขอยุโรปช่วยยูเครน
ด้านบรรยากาศกลางกรุงเคียฟในวันนี้ จะเห็นว่าตามท้องถนนเงียบเหงา เสียงไซเรนเตือนภัยยังคงดังสนั่นทั่วเมือง บรรยากาศเต็มไปด้วยความหวาดระแวงว่ากองกำลังรัสเซียอาจรุกคืบเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เคียฟคือเป้าหมายใหญ่ หลังมีภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นถึงยานยนต์หุ้มเกราะและขบวนรถทหารรัสเซียที่ยาวกว่า64 กิโลเมตร เป็นการเคลื่อนทัพใหญ่เพื่อเข้ามาเสริม บ่งชี้ว่าการโจมตีครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น และจะยกระดับความรุนแรงของการสู้รบขึ้นไปอีกมาก
ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียเตือนพลเมืองของตนในกรุงเคียฟให้ละทิ้งบ้านเรือน เพราะทางรัสเซียมุ่งเป้าโจมตีเป้าหมายใหญ่ 2 เป้าในเมืองหลวงด้วยการใช้อาวุธความแม่นยำความเร็วสูง
อิกอร์ โคนาเซนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า กองกำลังรัสเซียจะดำเนินการโจมตีในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า เป็นโครงสร้างพื้นฐานของสองหน่วยงานยูเครน นั่นก็คือ โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีของสำนักงานความมั่นคงของยูเครนหรือ SBU และหน่วยปฏิบัติการทางจิตวิทยาหรือ PSO
อีกเมืองที่ขณะนี้กำลังน่าเป็นห่วงคือ เมืองคาร์คีฟ เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ไกลจากชายแดนรัสเซีย
รัสเซียยกระดับโจมตี ส่งทหารพลร่มบุกคาร์คิฟ
เมื่อวานนี้มีภาพจากคาร์คีฟที่แสดงให้เห็นถึงการโจมตีอย่างหนักหน่วงรุนแรง จากภาพจะเห็นว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงจรวดใส่อาคารศูนย์ราชการท้องถิ่น ของหน่วยงานตำรวจท้องถิ่น ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จัตุรัสเสรีภาพ ซึ่งเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง ของทวีปยุโรป อานุภาพของขีปนาวุธทำให้อาคารถล่มลงมาทันที ทางการยูเครนเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คนและบาดเจ็บอีก 35 คน
หลังจากนั้นหน่วยกู้ภัยก็พยายามการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ยังอาจรอดชีวิต ผู้คนที่บาดเจ็บ รวมถึงร่างไร้วิญญาณหลายร่างถูกลำเลียงออกมา บางร่างยังทอดตัวอยู่ที่พื้นรอการลำเลียง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบอกว่า ยังไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บที่แน่นอน แต่ข้อมูลที่ชัดเจนแล้วคือ เกือบทั้งหมดเป็นพลเรือน จากลักษณะของการยิงและความเสียหาย คาดการณ์กันว่า ขีปนาวุธที่รัสเซียยิงใส่เป็นขีปนาวุธแบบร่อนและจรวด GRAD
นอกเหนือจากอาคารที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นจะโดนถล่มแล้ว มีรายงานว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธเข้าโจมตีอีกหลายจุดในคาร์คีฟในรอบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลายจุดที่ต้องเป้าหมายคือ พื้นที่ของพลเรือน ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ในคาร์คีฟก็พบร่างผู้เสียชีวิตจากการปะทะนอนกระจัดกระจาย ภาพความโกลาหลที่ถูกบันทึกไว้ จะได้ยินเสียงตะโกนระหว่างการบันทึกภาพนี้ รวมทั้งเสียงที่บอกว่า เห็นร่างผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็ก
แรงงานไทยเปิดใจวินาทีหนีตายในเมืองเคียฟ
ตั้งข้อสังเกต รัสเซียใช้อาวุธอานุภาพร้ายแรงโจมตี
อาวุธที่กำลังถูกจับตามองคือภาพนี้ เป็นภาพที่บ่งชี้ถึงลักษณะของอาวุธที่รัสเซียใช้ ซึ่งคาดกันว่าเป็นระเบิดลูกปราย หรือ คลัสเตอร์บอมบ์ซึ่งถือเป็นอาวุธต้องห้าม
คลัสเตอร์บอมบ์ หรือระเบิดดาวกระจายจัดเป็นอาวุธทำลายล้างสูง ถูกใช้งานในครั้งแรกโดยเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้วิธียิงจากภาคพื้นดินด้วยปืนใหญ่ หรือด้วยวิธีทิ้งจากอากาศยาน
โดยเมื่อยิงหัวรบถูกยิงออกไปจนถึงเป้าหมาย ตัวเปลือกหุ้มจะถูกสลัดออกมาจากนั้นจะปล่อยลูกระเบิดย่อยออกมาแตกกระจายกลางอากาศอีกจำนวนมากมาย
การทำลายล้างของคลัสเตอร์บอมบ์ครอบคลุมไปได้ขนาด 2-3 สนามฟุตบอล อานุภาพของมันทำให้ประชาคมโลกร่วมกันลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยระเบิดลูกปราย หรือระเบิดดาวกระจายห้ามการใช้ระเบิดนี้อย่างสิ้นเชิง
นอกจากเหนือจากระเบิดดาวกระจายแล้ว ออกซานา มาร์คาโรวา ทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า รัสเซียอาจจะใช้อาวุธอานุภาพสูงอีกตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า ระเบิดสูญญากาศหรือระเบิดเทอร์โมบาริก ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามอีกชนิดตามอนุสัญญาเจนีวา
ระเบิดสูญญากาศ หรือ ระเบิดเทอร์โมบาริก เป็นอาวุธที่บรรจุวัตถุระเบิดแรงดันสูง ซึ่งจะดูดเอาออกซิเจนในบรรยากาศรอบข้างเข้ามาจุดชนวนระเบิด ทำให้เกิดความร้อนมหาศาลและคลื่นกระแทกรุนแรงแผ่ออกไป เมื่อจุดชนวน ตัวระเบิดครั้งแรกจะปลดปล่อยอานุภาควัตถุระเบิดที่อาจเป็นทั้งของแข็งและของเหลวออกมา ภาพที่ปรากฏจึงเป็นลักษณะคล้ายกับหมอกควัน ไหลเข้าซอกลืบอาคารต่างๆ ได้ดี จากนั้นชนวนครั้งที่สองจะถูกจุดตามมา หมอกควันดังกล่าวจะลุกไหม้ ในขณะเดียวกันตัวระเบิดจะดูดเอาออกซิเจนรอบๆ ไป จากนั้นจึงปลดปล่อยแรงอัดอากาศออกมาก่อให้เกิดการทำลายล้างรุนแรง
รัสเซียเคยใช้ระเบิดสูญญากาศแบบนี้มาแล้วในการสู้รบที่เชชเนีย และบนโลกออนไลน์ผู้คนกล่าวอ้างว่ารัสเซียใช้ระเบิดนี้ในการโจมตีหลายเมืองของยูเครน แต่ยังไม่มีภาพชัด ๆ ที่พิสูจน์ได้
คนไทยสมัครเป็น "ทหารอาสา"ร่วมรบในยูเครน
ล่าสุดมีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ด้วยว่า กองทัพรัสเซียกำลังดำเนินการส่งหน่วยพลร่มเข้าไปในคาร์คีฟแล้ว ส่วนบนโลกออนไลน์มีคำกล่าวอ้างว่า กองทัพยูเครนยิงเครื่องบินรัสเซียหนึ่งลำตก ในระหว่างที่กำลังส่งพลร่มลงมาที่คาร์คีฟ
ในภาพรวม กระทรวงสาธารณสุขยูเครนรายงานว่า มีพลเรือนเสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียแล้ว 352 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 14 ราย ส่วนทางฝั่งรัสเซียยังไม่ชัดเจน แต่ยูเครนอ้างว่าสามารถสังหารทหารรัสเซียไปได้หลายพันนายแล้ว