“วันไหว้บะจ่าง” กุศโลบายดูแลสุขภาพ ช่วงเปลี่ยนฤดูกาล

“บะจ่าง” เป็นที่คุ้นเคยกันมากว่า เป็นอาหารที่ชาวจีนทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือ “ชวี หยวน” ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ของจีน ที่ตัดสินใจกระโดดน้ำเสียชีวิต เพราะทนเห็นแคว้นฉู่ตกเป็นของรัฐฉินไม่ได้ ชาวจึงใช้เจ้าอาหารวิถีจีนนี้ โยนลงไป เพื่อป้องกันไม่ให้ปลามาแทะร่างของเขา

แต่ที่จริงแล้วในเดือน 5 ตามปฏิทินจีน ถือเป็นช่วงเวลาของเปลี่ยนฤดูกาล จากช่วงฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน โดยในช่วงนี้ตามหลักศาสตร์การแพทย์แผนจีนจะมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ อาหารจะเสียง่าย แถมยังทำให้คนป่วยได้ง่ายขึ้นด้วย

ช่างภาพพีพีทีวี

ในทางการแพทย์แผนจีนจึงเชื่อกันว่า ด้วยสภาพอากาศที่กำลังร้อนขึ้นนี้ ชาวจีนในสมัยโบราณจึงมีกุศโลยายจัด “วันไหว้บะจ่าง” ขึ้นมา ซึ่งจะตรงกับ วันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจีน (10 มิถุนายน 2567) เพื่อเตือนให้ทุกคนระวังสุขภาพในช่วงรอยต่อของฤดูกาล

ดังนั้นแล้ววันนี้ทีมข่าวพีพีทีวีจะพาทุกคนไปรู้กุศโลบายของปราชญ์ชาวจีนที่ซ่อนไว้ใน “บะจ่าง” กัน

“บะจ่าง” อาหารเพื่อสุขภาพรับฤดูกาลเปลี่ยน

ในห่อบะจ่าง ประกอบไปด้วย ถั่วลิสง, เห็ดหอม, กุ้งแห้ง, ไชโป๊ว, หมูชิ้น, ข้าวเหนียว, กุนเชียง ฯลฯ ซึ่งมีคุณค่าทางอาหาร ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต รวมไปถึงสมุนไพร และพืชพันธุ์ธัญญาหาร โดยแต่ละส่วนประกอบมีสรรพคุณดังนี้

ถั่วลิสง : แก้พิษแดด คลายความร้อน ลดความเครียด เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยสงบจิตใจ และบำรุงกระเพาะม้ามให้แข็งแรง

เห็ดหอม : สร้างภูมิต้านทาน บำรุงกระดูก หัวใจ และช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์

กุ้งแห้ง : อุดมไปด้วยโปรตีน ไอโอดีน มีแคลเซียมสูง มีส่วนช่วยในการลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด และควบคุมการทำงานของหัวใจ

ไชโป๊ว : ล้างพิษ ขับพิษในร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้นอนหลับง่าย

หมูชิ้น : อุดมไปด้วยโปรตีน มีวิตามินบี 1 ช่วยลดอาการเหน็บชา มีวิตามินเอ บำรุงสายตา และมีวิตามินบร 3 บำรุงระบบประสาทและสมอง

ข้าวเหนียว : บำรุงชี่และม้าม ช่วยให้เจริญอาหาร

ใบไผ่ : ระบายความร้อน เสริมน้ำ และช่วยขับปัสสาวะ

ช่างภาพพีพีทีวี

จะเห็นว่าส่วนผสมของอาหารวิถีจีนนี้ ต่างมีสรรพคุณที่ช่วยคลายร้อน และช่วยในการปรับสมดุลของร่ายกาย จึงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกเลยว่าทำไม “บะจ่าง” ถึงกลายมาอาหารที่ชาวจีนยกย่องให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และมีเทศกาลเป็นของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม บะจ่างเป็นเมนูอาหารที่ให้พลังสูง ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ แต่ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากกินมากเกินไปก็อาจทำให้ย่อยยากได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก : หัวเฉียวแพทย์แผนจีน

สรุปตารางคะแนนทีมชาติไทย ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก จบ 5 นัด

รู้จัก "โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ" ผู้ทุ่มเงินคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดบอลยูโร 2024

อังกฤษ ประกาศชื่อ 26 คนสุดท้าย ลุยศึกฟุตบอลยูโร 2024