“ซีไอเอ” เผยยูเครนเตรียมรับศึกหนัก เหตุ “ปูติน” จะไม่ยอมแพ้

สหรัฐฯประเมิน ยูเครนไร้หนทางชนะรัสเซีย หลังเยอรมนีปฏิเสธส่งรถถังช่วย

สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม คาด "ปูติน" ระดมทหารถล่มยูเครนอีกครั้ง

วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ (CIA) เปิดเผยระหว่างการขึ้นปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในกรุงวอชิงตันดีซีของสหรัฐฯโดยได้ระบุว่า ในช่วงเวลา 6 เดือนหลังจากนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับยูเครน เพราะสิ่งที่ประธานาธิบดีปูติน จะทำ คือ บดขยี้ยูเครนทและจะทำทุกทางเพื่อให้พันธมิตรของยูเครนโดยเฉพาะในยุโรป เหนื่อยล้าและเลิกสนับสนุนยูเครน นอกจากนี้ประธานาธิบดีปูตินยืนอยู่ในจุดที่ไม่สามารถแพ้ได้แล้ว

โดยการประเมินของผู้อำนวยการ CIA เกิดขึ้นหลังมีกระแสข่าวว่า รัสเซียกำลังระดมพลเพื่อกลับเข้ามาโจมตียูเครนครั้งใหญ่อีกรอบในช่วงสิ้นสุดหน้าหนาวต่อเนื่องเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ หรือประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้พันธมิตรของยูเครนเร่งระดมส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปเพื่อให้ยูเครนใช้รับมือ หลังจากเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา เยอรมนีและยุโรปหลายชาติ ตัดสินใจครั้งสำคัญในการส่งรถถังประจัญบานเลพเพิร์ด 2 ซึ่งถือเป็นรถถังหลักที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลกให้ยูเครน

 

สหรัฐฯ ประกาศความช่วยเหลือชุดใหม่ให้ยูเครน

ขณะเดียวกัน เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สหรัฐฯ จะส่งมอบความช่วยเหลือทางการทหารชุดใหม่มูลค่ากว่า 2,200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว 73,000 ล้านบาทให้กับยูเครน

โดยพลอากาศจัตวาแพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือเพนตากอน แถลงว่า นอกเหนือจากจะมีอาวุธยุทธโปกรณ์อื่น ๆ ที่เคยส่งไปก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธต่อต้านรถถังเจวาลีน เครื่องยิงขีปนาวุธแบบหลายลำกล้องอย่างไฮมาร์ และกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากแล้ว

ทั้งนี้สิ่งที่จะถูกส่งไปให้แก่ยูเครนในความช่วยเหลือทางการทหารชุดใหม่ คือ ระเบิดนำวิถีขนาดเล็กชนิดจากพื้นสู่พื้น หรือ Ground Launched Small Diameter Bomb; GLSDB

สำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลเป็นอาวุธอีกหนึ่งตัวที่สหรัฐฯ พันธมิตรมีความระมัดระวังในการจัดส่งให้กับยูเครนมาก เนื่องจากเกรงว่าด้วยวิถีการยิงที่ไกลเกินไปอาจทำให้ยูเครนให้ยิงโจมตีเข้าไปในแผ่นดินรัสเซียได้

 

สหรัฐฯ ย้ำส่งระเบิดพิสัยไกลเพื่อให้ยูเครนปกป้องตนเอง

อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวครั้งนี้ โฆษกเพนตากอนระบุว่าถึงเวลาที่ยูเครนจะได้ยุทโธปกรณ์นี้ เพื่อป้องกันตัวเองและเพื่อเอาพื้นที่ที่รัสเซียยึดไปคืนมา

โดย Ground Launched Small Diameter Bomb (GLSDB) เป็นระเบิดนำวิถีแบบร่อนที่ใช้จีพีเอสนำทาง จึงสามารถใช้โจมตีเป้าหมายที่ยากต่อการเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นฐานหรือศูนย์บัญชาการรบ ซึ่งระเบิดนำวิถีนี้มีระยะยิงได้ไกล 150 กิโลเมตร ซึ่งเป็นขีปนาวุธวิถีที่ไกลที่สุดเท่าที่สหรัฐฯ เคยส่งให้กับยูเครน และวิถีที่ไกลขนาดนี้หมายความว่า ยูเครนสามารถใช้มันในการโจมตีเส้นทางขนส่งเสบียงของกองทัพรัสเซียทางภาคตะวันออกซึ่งเป็นจุดที่คาดว่ารัสเซียจะยกทัพใหญ่เข้ามาได้

ซึ่งการยิง GLSDB เข้าไปจะสามารถกดดันให้รัสเซียต้องถอยเส้นทางการส่งเสบียงห่างออกไปจากแนวหน้ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งเสบียงและกำลังบำรุงไปที่ทหารที่รบอยู่ในแนวหน้า

 

นอกจากนี้ ยูเครนยังสามารถใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลตัวนี้โจมตีได้ไปไกลถึงเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างภาคตะวันออกของยูเครนกับแคว้นไครเมียบริเวณเมืองเบอร์เดียนสก์และเมลิโตปอล ซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายทหารใหญ่ของรัสเซียด้วย

ขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า GLSDB จะมีส่วนช่วยยูเครนอย่างมากในการชะลอหรือทำลายแผนการรุกคืบครั้งใหม่ของรัสเซีย โดยกระทรวงกลาโหมหรือเพนตากอนคาดว่าจะสามารถจัดส่ง GLSDB ให้กับยูเครนได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า