“คอร์รัปชัน” ในยูเครน พิษร้ายท่ามกลางเพลิงสงคราม
รัสเซียทำสงครามซ้อนสงคราม เตรียมยึดบัคมุตก่อนครบ 1 ปี
บรรยากาศจากเมืองบัคมุต เมืองอุตสาหกรรมในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครนที่ขณะนี้กำลังเป็นตัวแปรสำคัญของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน จากภาพคือทหารยูเครนที่กำลังอ่อนล้า บางคนงีบหลับ ในขณะที่บางคนต้องตื่นตัวเฝ้ายาม
พวกเขาเล่าว่า บางครั้งไม่ได้นอนติดกันหลายคืน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดและต้องระแวดระวังการโจมตีอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามทหารเหล่านี้ระบุว่า สามารถอดทนได้ เพื่อชัยชนะ
ด้านสภาพของเมืองที่ถ่ายจากด้านในรถทหาร ขณะที่ทหารกลุ่มนี้กำลังเคลื่อนย้ายกำลังพล จะเห็นว่าตึกรามบ้านช่องส่วนใหญ่พังเสียหาย เพราะร้อยละ 90 ของอาคารในบัคมุตถูกโจมตีตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
หน่วยทหารที่มีชื่อว่า "แรคคูน" กลุ่มนี้เล่าว่า สถานกาณร์สู้รบในบัคมุตยากลำบากมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะเมืองและถนนเสียหายหนัก หลุมบ่อที่เกิดขึ้นทำให้การสัญจรด้วยรถเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งสถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจนคาดเดาไม่ได้
โดยทหารยูเครนกำลังถูกทหารรัสเซียกดดันอย่างหนัก จากภาพคือแนวหน้าของเมืองที่ขณะนี้ทหารยูเครนต้องเร่งขุดสนามเพลาะเพิ่ม เพื่อสร้างแนวป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย
ระหว่างที่พวกเขากำลังขุดจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ ๆ รายงานจากหน่วยข่าวกรองระบุว่า สะพานสองแห่งของเมืองถูกทำลายในช่วง 36 ชั่วโมงที่ผ่านมา และขณะนี้เส้นทางการส่งเสบียงเข้าไปในเมืองกำลังเหลือน้อยลงเรื่อยๆ
ด้านสถานการณ์ล่าสุด บัคมุตเหลือถนนเข้าออกเพียงเส้นเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ถูกรัสเซียยึดไป โดยบรรยากาศของถนนเส้นสุดท้ายที่ทหารถ่ายไว้ และหากเสียถนนเส้นนี้ไป พวกเขาจะถูกรัสเซียล้อมกรอบ
ส่วนเมื่อวานนี้มีรายงานจากกองทัพยูเครนว่า พลเมืองหญิงรายหนึ่งเสียชีวิตจากการโจมตี และมีพลเมืองชายอีกสองรายได้รับบาดเจ็บขณะที่ทั้งสามคนกำลังพยายามที่จะข้ามสะพานเพื่ออพยพหนีออกจากเมือง
นอกจากการต่อสู้จริงที่แนวรบแล้ว อีกสิ่งที่ยูเครนต้องเผชิญก็คือ คลิปวิดีโอที่มีผลทางจิตวิทยา ซึ่งรัสเซียยังคงเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง จากภาพคือ เยฟเกนี ปริโกซิน ผู้ก่อตั้งทหารแวกเนอร์ที่กำลังยืนอยู่หน้าโลงศพจำนวนหนึ่ง โดบเขาระบุว่า แวกเนอร์จะดำเนินการส่งโลงที่บรรจุร่างของทหารชาวยูเครนเหล่านี้กลับไปให้ครอบครัวของเขา
แวกเนอร์คือทหารรับจ้างที่ขึ้นชื่อด้านความโหดเหี้ยม และอยู่เบื้องหลังการโจมตียูเครนมาแล้วหลายเมือง เช่น เมืองบูชา อย่างไรก็ตามในวิดีโอไม่ได้ระบุว่าเป็นสถานที่ใด ตลอดจนปริโกซินอยู่ที่บัคมุตจริงหรือไม่
และหากย้อนไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปริโกซินก็เพิ่งจะออกมากล่าวผ่านวิดีโอ ระบุว่าขอส่งสารไปยังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ว่า ขณะนี้บัคมุตถูกรัสเซียล้อมไว้หมดแล้ว มีเพียงถนนเข้าออกเพียงเส้นเดียวเท่านั้น รวมถึงยังบอกให้ผู้หญิงและเด็กที่อยู่ในเมืองรีบอพยพออกให้เร็วที่สุด
ก่อนจะเกิดสงคราม เมืองบัคมุตมีประชากรราว 75,000 คน ทุกวันนี้คาดกันว่ายังมีชาวเมืองที่ปักหลักอยู่ราว 4,000 คน ในจำนวนนี้มีเด็กราว 48 คน คำกล่าวของผู้ก่อตั้งแวกเนอร์สอดคล้องกับรายงานจากหน่วยข่าวกรอง
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รายงานจากหน่วยข่าวกรองอังกฤษระบุว่า ทหารแวกเนอร์ รุกคืบพื้นที่เพิ่มทางตอนเหนือของเมือง ส่งผลให้สถานการณ์ของยูเครนในขณะนี้ยากลำบากมากขึ้นในการตั้งรับ
เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว ที่เมืองนี้กลายมาเป็นสมรภูมิสู้รบ และนักวิเคราะห์เชื่อว่า รัสเซียต้องการที่จะเผด็จศึกเมืองนี้ให้ได้ เนื่องจากช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้าทางการทหาร ดังนั้นชัยชนะในเมืองนี้จะเป็นหมุดหมายและเป็นขวัญกำลังใจสำคัญให้กับทหารรัสเซีย รวมถึงกอบกู้ชื่อเสียงของวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย
อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายก็มองว่า ต่อให้รัสเซียยึดบัคมุตได้จริงก็เป็นชัยชนะที่ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะบัคมุตเป็นเมืองเล็กๆ รัสเซียไม่ควรต้องเสียทรัพยากรและกำลังพลมากขนาดนี้
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บริเวณแนวรบหนึ่งในแคว้นโดเนตสก์ ปรากฏภาพของเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียลงพื้นที่เยี่ยมทหาร ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะเห็นรัฐมนตรีคนนี้ลงสนาม โดยแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในเทเลแกรมระบุว่า เป็นการลงตรวจหน่วยทหาร มอบเหรียญรางวัลให้กับทหารกล้า และเยี่ยมชมความเสียหายของจุดที่รัสเซียยึดมาจากยูเครนได้
ภาพของผู้นำทางการทหารและผู้นำแวกเนอร์ปรากฏตัวในสมรภูมิช่วงเวลาเดียวกันชวนให้ย้อนถึงความแตกแยกภายในรัสเซีย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัสเซียประกาศแผนปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่ โดยเป็นแผนระยะยาวที่มีกรอบเวลา 3 ปี สิ่งที่ต้องทำมีหลายอย่างเช่น เพิ่มกองพลทหารราบและทหารอากาศ
อย่างไรก็ตามในแผนไม่มีการพูดถึงทหารแวกเนอร์ ซึ่งเป็นทหารรับจ้างที่ร่วมรบในยูเครนมาตั้งแต่สงครามวันแรกๆ ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดกันว่า รัสเซียน่าจะกำลังลดการพึ่งพาทหารรับจ้างเหล่านี้
